ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-03-2022, 17:09
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,220
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ทองหยด อ่านข้อความ
กราบนมัสการ​หลวงพ่อ​ที่​เคารพ​อย่างสูง​
เคยมีโอกาสได้ฟังเสียงเทศน์​สอนของหลวงปู่​ฤๅษี​ วัดท่าซุง ที่วัดท่าขนุนเปิด ซึ่งไม่ได้ฟังแบบแท้จริงทุกครั้งที่วัดเปิด เป็นเพราะความไม่รู้กับความโง่ บางครั้งพยายามตั้งใจฟัง แต่พอผู้คนคุยทักทายสนทนาจนได้ยินไม่ชัด บวกกับความขี้เกียจ เลยไม่พยายามที่จะฟัง

มาคิดได้ตอนนี้ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะเป็นคำสอนของหลวงปู่​ฤๅษี​ ที่หลวงพ่อได้อุตสาหะคัดเลือกนำมาเปิดให้ลูกศิษย์​ได้ฟัง แล้วหลวงพ่อเป็นพระอุปฐากใกล้ชิดหลวงปู่รูปหนึ่ง ย่อมได้รับรู้ถ่ายทอดจากหลวงปู่ที่มีกำลังปฏิสัมภิทา ๔ แท้จริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการพบกัน

มาพิจารณา​แล้วได้เกิดเป็นคำถามดังนี้

๑. เสียงคำสอนของหลวงปู่ที่เปิดช่วงตอนเย็นภายหลังเวลากวาดลานวัด มักจะเป็นเรื่องศีลวินัยของพระ หลวงปู่สามารถอธิบายด้วยถ้อยคำที่เข้าใจง่าย แต่รายละเอียด​ครบถ้วนและมีความรู้ที่วิจิตร​ลงลึกเกินธรรมดา ความสามารถแบบนี้ จะต้องเป็นปฏิสัมภิทาญาณ​"อย่างน้อย" เท่าใด แบบใด จึงจะสามารถทำได้เช่นนี้

๒. ปกติสายปฏิสัมภิทาญาณ​ ถ้าแตกฉานเด่นด้านใด ปฏิสัมภิทาที่เหลืออีก ๓ จะมีด้วย แต่จะเป็นรอง ๆ ลด ๆ ตามลำดับ แต่หลวงปู่ฤๅษี​ วัดท่าซุง กลับแตกฉานเด่นครบทั้ง ๔ และสามารถสอนสั่ง โดยเฉพาะลูกศิษย์​มาสายพระโพธิสัตว์​และเป็นปฏิสัมภิทาญาณด้วยได้ ซึ่งไม่ใช่จะสอนสั่งได้ง่าย เนื่องจากหลวงปู่ท่านเคยเป็นวิริยาธิกโพธิสัตว์ สร้างบุญบารมีมากและครบถ้วนหรือไม่

๓. พระโพธิสัตว์​ที่บุญบารมีมาก จะพึงรู้ มีสติปัญญา​มาก จึงจะเร่งขวนขวายสร้างบุญ​บารมีให้มากที่สุดอย่างรวดเร็ว ไม่มีเที่ยวลัดเลาะชมนกชมไม้กับเสียเวลากับเรื่องทางโลกที่ไม่เกี่ยวข้องจำเป็นนัก ตอนนี้สังเกตจากชาดกพระเจ้าสิบชาติ คือ พระเวสสันดร​ อันเป็นพระชาติสุดท้ายก่อนจะทรงตรัสรู้ อีกทั้งได้รับการยกย่องว่าเป็น "มหาชาติ" ด้วย ทันทีที่คลอดออกจากครรภ์​พระมารดา ทรงสร้างทานบารมีทันที ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่

๔. สายปฏิสัมภิทาญาณ​ โดยจริตจะช่างสงสัย​มากเกินสายอื่น แต่ถ้าบุญ​บารมีมากพอที่จะสำเร็จ​ในชาติปัจจุบัน​แล้ว จะไม่ค่อยตั้งคำถามหรือสอบถาม เพราะท่านมีความรู้แบบอัตโนมัติ​ ได้ยินเรื่องธรรมใด รับทราบเรื่องใด จะพิจารณา​รู้โดยอัตโนมัติ​ว่าใช่ไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง มีวิริยะทุ่มเท​เร่งปฏิบัติ​ธรรม​ เพราะรู้แท้จริงแล้ว เรื่องนี้มาจากการอ่านประวัติคำสอนพระเถระต่าง ๆ ที่ได้สุ่มเดาว่าท่านมีความน่า​เป็นปฏิสัมภิทาญาณ​ สังเกตว่าท่านไม่ค่อยถามหรือขยันถามเลย ( แต่หลายครั้งโยมอ่านกลับเสียดายและอยากจะถามแทน )​ โดยท่านตั้งคำถามกับพระสงฆ์​ผู้เป็นครูบาอาจารย์​น้อยมาก ๆ แต่ละรูปตลอดชีวิตตามที่เห็นอักษรมา มีคำถามไม่เกินสี่ จะถามชนิดว่าไม่รู้จริง ๆ ติดขัดจริง ๆ และเป็นคำถามที่พบเจอมาจากการปฏิบัติ ตามข้อนี้ เป็นความเข้าใจถูกต้องหรือไม่


กราบขอขมาและกราบขอบพระคุณ​ค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา