 
			
				07-03-2022, 17:09
			
			
			
		  
	 | 
	
		
		
		
			  | 
			
				
				 ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว 
				
				
			 | 
			  | 
			
				
					วันที่สมัคร: Jun 2009 
					
					
					
						ข้อความ: 5,196
					 
					 
	ได้ให้อนุโมทนา: 288,068 
	
		
			
				ได้รับอนุโมทนา 861,301 ครั้ง ใน 13,393 โพสต์
			
		
	 
					
					
					
					     
				 
			 | 
		 
		 
		
	 | 
	
	
		
	
		
		
			
			
				 
				
			 
			 
			
		
		
		
			
			
	อ้างอิง: 
	
	
		
			
				
					ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ  ทองหยด
					 
				 
				กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง  
เคยมีโอกาสได้ฟังเสียงเทศน์สอนของหลวงปู่ฤๅษี วัดท่าซุง ที่วัดท่าขนุนเปิด ซึ่งไม่ได้ฟังแบบแท้จริงทุกครั้งที่วัดเปิด เป็นเพราะความไม่รู้กับความโง่ บางครั้งพยายามตั้งใจฟัง แต่พอผู้คนคุยทักทายสนทนาจนได้ยินไม่ชัด บวกกับความขี้เกียจ เลยไม่พยายามที่จะฟัง  
 
มาคิดได้ตอนนี้ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะเป็นคำสอนของหลวงปู่ฤๅษี ที่หลวงพ่อได้อุตสาหะคัดเลือกนำมาเปิดให้ลูกศิษย์ได้ฟัง แล้วหลวงพ่อเป็นพระอุปฐากใกล้ชิดหลวงปู่รูปหนึ่ง ย่อมได้รับรู้ถ่ายทอดจากหลวงปู่ที่มีกำลังปฏิสัมภิทา ๔ แท้จริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการพบกัน 
 
มาพิจารณาแล้วได้เกิดเป็นคำถามดังนี้ 
 
๑. เสียงคำสอนของหลวงปู่ที่เปิดช่วงตอนเย็นภายหลังเวลากวาดลานวัด มักจะเป็นเรื่องศีลวินัยของพระ หลวงปู่สามารถอธิบายด้วยถ้อยคำที่เข้าใจง่าย แต่รายละเอียดครบถ้วนและมีความรู้ที่วิจิตรลงลึกเกินธรรมดา ความสามารถแบบนี้ จะต้องเป็นปฏิสัมภิทาญาณ"อย่างน้อย" เท่าใด แบบใด จึงจะสามารถทำได้เช่นนี้ 
 
๒. ปกติสายปฏิสัมภิทาญาณ ถ้าแตกฉานเด่นด้านใด ปฏิสัมภิทาที่เหลืออีก ๓ จะมีด้วย แต่จะเป็นรอง ๆ ลด ๆ ตามลำดับ แต่หลวงปู่ฤๅษี วัดท่าซุง กลับแตกฉานเด่นครบทั้ง ๔ และสามารถสอนสั่ง โดยเฉพาะลูกศิษย์มาสายพระโพธิสัตว์และเป็นปฏิสัมภิทาญาณด้วยได้ ซึ่งไม่ใช่จะสอนสั่งได้ง่าย เนื่องจากหลวงปู่ท่านเคยเป็นวิริยาธิกโพธิสัตว์ สร้างบุญบารมีมากและครบถ้วนหรือไม่ 
 
๓. พระโพธิสัตว์ที่บุญบารมีมาก จะพึงรู้ มีสติปัญญามาก จึงจะเร่งขวนขวายสร้างบุญบารมีให้มากที่สุดอย่างรวดเร็ว ไม่มีเที่ยวลัดเลาะชมนกชมไม้กับเสียเวลากับเรื่องทางโลกที่ไม่เกี่ยวข้องจำเป็นนัก ตอนนี้สังเกตจากชาดกพระเจ้าสิบชาติ คือ พระเวสสันดร อันเป็นพระชาติสุดท้ายก่อนจะทรงตรัสรู้ อีกทั้งได้รับการยกย่องว่าเป็น "มหาชาติ" ด้วย ทันทีที่คลอดออกจากครรภ์พระมารดา ทรงสร้างทานบารมีทันที ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่ 
 
๔. สายปฏิสัมภิทาญาณ โดยจริตจะช่างสงสัยมากเกินสายอื่น แต่ถ้าบุญบารมีมากพอที่จะสำเร็จในชาติปัจจุบันแล้ว จะไม่ค่อยตั้งคำถามหรือสอบถาม เพราะท่านมีความรู้แบบอัตโนมัติ ได้ยินเรื่องธรรมใด รับทราบเรื่องใด จะพิจารณารู้โดยอัตโนมัติว่าใช่ไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง มีวิริยะทุ่มเทเร่งปฏิบัติธรรม เพราะรู้แท้จริงแล้ว เรื่องนี้มาจากการอ่านประวัติคำสอนพระเถระต่าง ๆ ที่ได้สุ่มเดาว่าท่านมีความน่าเป็นปฏิสัมภิทาญาณ สังเกตว่าท่านไม่ค่อยถามหรือขยันถามเลย ( แต่หลายครั้งโยมอ่านกลับเสียดายและอยากจะถามแทน ) โดยท่านตั้งคำถามกับพระสงฆ์ผู้เป็นครูบาอาจารย์น้อยมาก ๆ แต่ละรูปตลอดชีวิตตามที่เห็นอักษรมา มีคำถามไม่เกินสี่ จะถามชนิดว่าไม่รู้จริง ๆ ติดขัดจริง ๆ และเป็นคำถามที่พบเจอมาจากการปฏิบัติ ตามข้อนี้ เป็นความเข้าใจถูกต้องหรือไม่ 
 
 
กราบขอขมาและกราบขอบพระคุณค่ะ 
			
		 | 
	 
	 
  
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
			
			
			
			
				 
			
			
			
			
			
			
			
				
			
			
			
		 
	
	 |