๔. จุดที่ยากที่สุดของพระพุทธศาสนา คือ เรื่องไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ตัวกรรมหรือสภาวธรรม (กรรม) ที่เคลื่อนไปเป็นไตรลักษณ์ จึงมีผู้สงสัยกันมากว่า เมื่อไม่มีคนแล้ว จะมีการเกิดหรือการตายได้อย่างไรกัน
๕. ชาวต่างชาติจึงเขียนตำรา โดยอาศัยหลักพุทธศาสนาที่ได้รับมาผิด ๆ (เป็นมิจฉาทิฏฐิ) จึงมาเขียนผิด ๆ ตู่คำสอนของพระพุทธองค์ หรือสงสัยทำให้ปฏิบัติไปสู่สีลพตปรามาส เช่น ยึดประเพณี ธรรมเนียม กิริยาท่าทาง โดยการวางแบบไว้ตายตัว จนกลายเป็นพิธีหมด ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่มีในพุทธกาลเลย
๖. ชาวยุโรปบางคนถูกยกย่องเป็นศาสตราจารย์ฝ่ายพระพุทธศาสนา ยกว่าเขาเป็นพุทธบริษัทที่แท้จริง เพราะเป็นนักเสพผัก (vegetarian) หรือพวกถือมังสวิรัติ ภรรยาเป็นไม่ได้เพราะเสพผัก พวกอาซิ้มกินเจไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นแรงหลายชนิด บริโภคแต่ผักต้มหรือดองแล้วเป็นส่วนใหญ่ พวกไม่กินเนื้อสัตว์ (vegetarian) แต่กินไข่ กินนม กินผักสด ผักดิบทุกชนิดต่างยึดมั่นถือมั่นในรูปแบบพิธีต่าง ๆ แต่ในพุทธกาลไม่มีพิธีโดยสิ้นเชิง
๗. ชาวต่างประเทศและชาวไทยบางคน ยึดคัมภีร์เป็นหลักใหญ่ ไม่เชื่อไม่ไว้วางใจพุทธบริษัทชาวเอเชีย จึงต้องอ่านพระไตรปิฎกทั้งหมดด้วยตนเองก่อน จึงจะรู้พุทธศาสนา ก็ยิ่งไม่ถูกขึ้นไปอีกเพราะธรรมะแท้จริงนั้นถ่ายทอดกันไม่ได้ทางเสียงหรือทางตัวหนังสือ พวกติดตำราจึงเมาตำรา ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ปริยัติกลายเป็นงูพิษตามอลคัททูปมสูตร
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2010 เมื่อ 16:07
|