ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 18-02-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,564 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ต้องพิจารณาดูว่า อันดับแรกเลย ภาวนาพระคาถาถูกต้องตามวิธีการหรือเปล่า ? อย่าลืมว่ากระผม/อาตมภาพใช้คำว่าภาวนา ไม่ได้ใช้คำว่าสวดหรือท่อง

การภาวนาก็คือต้องใช้พระคาถาเงินล้านควบกับลมหายใจเข้าออก ก็ลักษณะเดียวกับการภาวนาพุทโธนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อยเท่านั้น ไม่ต้องไปดูว่าจังหวะจะลงพอดีตรงช่วงไหน แต่ว่าให้หายใจเข้าออกตามปกติ เพียงแต่กำหนดใจภาวนาตามลมหายใจเข้าออกไป

ข้อที่สองก็คือ มีการกระทำที่จริงจังสม่ำเสมอหรือเปล่า ? ถ้าหากว่ามีการกระทำที่จริงจังสม่ำเสมอ ผลของคาถาจะเกิดเร็ว แต่ถ้าหากว่าท่านทำ ๆ ทิ้ง ๆ นึกได้แล้วค่อยทำ มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่ความขยันในแต่ละวัน ถ้าลักษณะอย่างนั้นพระคาถาจะเกิดผลน้อยมาก เพราะว่าคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา ต้องการคนที่จริงจัง เด็ดขาด สม่ำเสมอ

ข้อต่อไปก็คือ สมาธิของเราสูงเท่าไรตอนที่ภาวนา ? ยิ่งสมาธิทรงตัวมาก พระคาถาก็จะยิ่งให้ผลมาก ดังนั้น...ที่กระผม/อาตมภาพขอไว้ว่า ถ้าตั้งใจจะภาวนาเพื่อรวยกันจริง ๆ อย่างน้อยขอวันละ ๑๐๘ จบ ถ้ารู้สึกว่ามากเกินไป นานเกินไป ไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ก็ให้แบ่งเป็นช่วง เช้า ๓๖ จบ กลางวัน ๓๖ จบ เย็น ๓๖ จบ ครบ ๓ ช่วงก็ได้ ๑๐๘ จบพอดี

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เมื่อเริ่มภาวนาใหม่ ๆ กำลังใจของเรา ถ้าไม่คล่องตัวระดับทรงฌานได้ ก็จะฟุ้งซ่านเป็นปกติก่อน แต่ว่าเมื่อภาวนาไป นานเข้า ๆ กำลังใจก็จะทรงตัว สมาธิดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น...ผลที่เกิดขึ้นมากน้อยต่างกัน ส่วนหนึ่งก็คือสมาธิที่สูงต่ำต่างกัน

อีกข้อหนึ่งก็คือ วางกำลังใจถูกต้องหรือเปล่า ? ถ้าวางกำลังใจไม่ถูกต้อง ภาวนาเพราะอยากรวย จะเกิดผลยากมาก ถ้ามีผู้ถามว่าไม่อยากรวยแล้วจะภาวนาไปทำอะไร ? ก็จริงของเขา

เราอยากจะรวยเป็นเรื่องปกติ ปุถุชนทุกคนก็ต้องการเช่นนั้น แต่เวลาภาวนาให้ลืมความอยากนั้นเสีย ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออกและตัวพระคาถาเท่านั้น เพราะว่าความอยากรวยเป็นความฟุ้งซ่าน ตราบใดที่ยังอยากรวยอยู่ จิตย่อมไม่เป็นสมาธิ โอกาสที่พระคาถาจะเกิดผลก็น้อยมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2022 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา