| 
				  
 
			
			ถาม :  การพิจารณาว่าร่างกายเป็นแค่ธาตุสี่  กับพิจารณาว่าร่างกายเป็นของสกปรก  จริง ๆ แล้วการพิจารณาธาตุสี่   นี่ระดับสูงกว่าหรือเปล่าคะ ?ตอบ :  ถ้าหากว่าเห็นจริง จะไปจบลงที่ปล่อยวาง เพราะเห็นชัดว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา  ก็ต้องสูงกว่า   แต่ถ้าเห็นว่าสกปรก  กำลังยังไม่เกินพระอนาคามี
 
 ถาม : ช่วงสมัยเด็ก ๆ หนูนั่งมองมือตัวเอง มือก็วางนิ่ง ๆ อยู่  แล้วเกิดความรู้สึกว่า มือนี้ไม่ใช่มือเรา  มันเป็นท่อน ๆ  เป็นอะไรก็ไม่รู้  ก็เป็นลักษณะของธาตุสี่เหมือนกันใช่ไหมคะ ?
 ตอบ : น่าจะมีของเก่าตามมา   เห็นว่าเป็นอะไรก็ไม่รู้  จะบอกว่าเป็นธาตุสี่ก็ยังไม่ใช่ แต่เห็นว่าไม่ใช่ของเรา
 
 ถาม :  แต่พอพิจารณาไปจริง ๆ มันกลับไม่มีอารมณ์ให้เกิดขึ้นค่ะ มันเกิดแบบฟลุก ๆ อย่างไรก็ไม่ทราบ
 ตอบ : เหมือนกับพระราชาที่ไปเลียบพระนครแล้วก็เช็ดเหงื่อทีหนึ่ง   บังเอิญคิดได้ตอนนั้น
 
 ถาม :  เร็ว ๆ นี้  หนูนอนภาวนาหลับไป  ปรากฏว่าใจไม่หลับ ก็ฟลุกอีกแล้วค่ะ
 ตอบ : ฟลุกอีกแล้ว ก็ทำใหม่สิ..!
 
 ถาม : ได้ทีเดียวเอง
 ตอบ : ถ้าสั่งได้จะได้เลิกฟลุก  ถ้าสั่งไม่ได้ก็ยังฟลุกอยู่นั่นแหละ
 
 ถาม : พอได้แค่นั้นก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ  ก็คืออยู่เฉย ๆ หรือคะ ?
 ตอบ :  ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ  แต่กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ  แล้วพยายามสังเกตอารมณ์ใจว่า  จุดที่นิ่งอยู่แล้วรู้ได้ทั้ง ๆ ที่หลับเป็นอย่างไร  แล้วรักษาเอาไว้ตรงนั้น   ถ้าหากเราคลายนิดเดียว  สติขาดจะหลับไปเลย  แต่ถ้าหากรักษาระดับนั้นเอาไว้ได้  ต่อไปจะหลับจะตื่น กำลังใจจะเท่ากัน
 
 ถาม :  หนูสังเกตว่า จริง ๆ แล้ว คล้าย ๆ กับตอนภาวนาแล้วหลุดออกไปใช่ไหมคะ  เพียงแต่ตอนนั้นหลุดจากร่างกาย  อันนี้อยู่กับร่างกาย
 ตอบ : จ้ะ
 
 ถาม : สมัยก่อนเวลาที่มีความคิดที่เน่า ๆ เศร้า ๆ หนูจะลงไปมั่วกับมัน แล้วไร้ทางสู้เลยค่ะ  แต่หลัง ๆ เริ่มบังคับได้แล้ว  พอมันมาก็หันหน้าหนีได้   แต่หนูมีความรู้สึกว่า  ลักษณะแบบนี้  ก็ยังอยู่ในระดับปุถุชนอยู่
 ตอบ :  อันดับแรกก็คือ ต้องหยุดให้ได้    ตัวหยุดให้ได้ก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้เราไม่ไปคิดนึกปรุงแต่ง   ตาเห็นต้องหยุดอยู่แค่นั้น   หูได้ยินเสียงต้องหยุดอยู่แค่นั้น
 
 เพราะฉะนั้น..วิธีที่ดีที่สุด  ก็คือ  ต้องอยู่กับสมาธิภาวนา  ถ้าอยู่กับสมาธิภาวนา เราไม่คลายออกมา กระทบปุ๊บ  สติและปัญญาเราจะรู้รอบเลยว่า  ควรจะรับไว้หรือไม่ควรจะรับไว้   ถ้าควรจะรับไว้ มีความสนใจระดับไหน  จะขยายออกรับรู้แค่นั้น แล้วก็รีบหลบกลับมา  แต่ถ้าหากไม่ควรจะรับไว้ ก็ตัดทิ้งปล่อยไปเลย   ก็แค่ประเภทสักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน
 
 ไปเริ่มต้นใหม่ได้  คราวนี้เหลืออยู่ตรงสมาธิแล้ว  ถ้าสมาธิทรงตัวมาก  ปัญญาก็เกิด   แล้วก็จะรู้ว่าควรจะเลือกตรงไหน
 
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-02-2010 เมื่อ 09:19
 |