ถ้าหากว่าเอ่ยชื่อก็อย่างเช่นท่านอาจารย์นิกร ท่านอาจารย์ยันตระ หลวงพ่อภาวนาพุทโธ เป็นต้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อปฏิบัติธรรมไปถึงระยะหนึ่ง ความสามารถพิเศษเริ่มปรากฏ ผู้คนก็เห็นเป็นอัศจรรย์ แห่กันไปหาหัวไม่วางหางไม่เว้น จนไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมเพื่อรักษาใจตัวเอง เมื่อถึงเวลากิเลสตีกลับ ก็เกิดสภาพอย่างที่เห็น
เรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้นมีอยู่ ๒ ประเภทด้วยกัน ก็คือประเภทแรก...สำเร็จแล้วสำเร็จเลย อีกประเภทหนึ่ง...อยู่ในลักษณะที่เพิ่งกดกิเลสเอาไว้ได้ ประเภทหลังนี่ส่วนใหญ่มาสายอภิญญา ความสามารถพิเศษต่าง ๆ เริ่มปรากฏขึ้น คนก็เห็นเป็นอัศจรรย์ แห่กันไปมืดฟ้ามัวดิน ทำให้ท่านไม่มีเวลาปฏิบัติเพื่อกดกิเลสตัวเองต่อ เมื่อกิเลสตีกลับ เราก็สูญเสียครูบาอาจารย์ที่ดีไปอย่างที่เห็น
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปนี้ถ้าหากว่าใครสอบถามให้บอกว่า ถ้าอยู่วัด กระผม/อาตมภาพจะลงรับญาติโยมตั้งแต่บ่ายโมงถึง ๔ โมงเย็น เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถ้าญาติโยมเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ตอนช่วงเช้า ก็จะมาถึงระยะเวลาใกล้เคียงนั้นพอดี แล้วกระผม/อาตมภาพเองก็จะได้มีเวลาทำงานทำการอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบมากมายในช่วงเช้าไปก่อน
แล้วก็ไม่ต้องมาต่อว่า ไม่ต้องมาเรียกร้องว่ามาผิดเวลาแล้วไม่ได้พบ ถ้าหากว่าเป็นคนดีพอ รู้ระเบียบ รู้วินัย เขาจะมาตรงเวลาเอง ส่วนไอ้ที่ไม่รู้ระเบียบ ไม่รู้วินัย ก็ถือว่าความประพฤติยังไม่เพียงพอที่จะสงเคราะห์ ถ้าสวรรค์มีทางไม่รู้จักไป อยากจะด่าพระเพื่อให้ลงนรกก็เชิญ...!
วันนี้ก็ขออนุญาตบอกกล่าวแก่พระภิกษุสามเณรของเรา แล้วก็แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ได้รับทราบแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2022 เมื่อ 02:36
|