ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 22-01-2022, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,645 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะการที่เดินตามถนน ก็มีการโบกรถขออาศัยไปบ้าง ขอน้ำบ้าง ที่แย่กว่านั้นก็คือขอค่าเดินทาง ซึ่งโดยปกติแล้วพระธุดงค์ ถ้าเข้าป่ากันจริง ๆ เขาห้ามพกเงินไปด้วย เพราะถือว่าเป็นอาบัติ ก็คือศีลขาด

การที่ศีลไม่บริสุทธิ์ ไม่มีกำลังของศีลคุ้มครองตัวเอง ออกป่าแล้วโอกาสตายมีมากกว่ารอด เพราะว่าป่าสมัยนั้นดุมาก ซึ่งไม่ต้องถึงขนาดสมัยก่อน แค่สมัยกระผม/อาตมภาพออกธุดงค์ ตั้งแต่พ้นพรรษาที่ ๔ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า "แกจบนักธรรมชั้นเอกแล้ว
ความรู้ถือว่าพอคุ้มตัวได้ อนุญาตให้ออกธุดงค์ได้" แต่ขนาดนั้นก็ตาม เมื่อกระผม/อาตมภาพบอกว่าจะไปที่ไหน เพื่อนพระพี่น้องก็ถอนตัวกันหมด เพราะทุกคนคิดว่าไปหาที่ตายชัด ๆ..!

ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายที่คิดว่าบ้านเราเมืองเราไม่มีป่าให้ธุดงค์แล้ว ก็เลยต้องเดินกันในเมือง กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า บ้านเรายังมีป่าเยอะมาก แต่เป็นสถานที่ซึ่งพวกท่านไปแล้วต้องเอาชีวิตเข้าไปแลก เพราะว่าบางทีเดิน ๑๐ กว่าวัน ไม่เจอบ้านคนเลย อาหารการกิน ถ้าหากว่าไม่สามารถบิณฑบาตจากต้นไม้ได้ ก็ต้องทนอดเอา เรื่องพวกนี้ท่านที่ทนความลำบากไม่ได้ จึงไม่ยอมเข้าป่าที่เป็นป่าจริง ๆ

แต่กระผม/อาตมภาพที่เป็นมือใหม่หัดขับ ออกป่าครั้งแรกก็เป็นป่าใหญ่ไพรสูง ที่เต็มไปด้วยสัตว์เหมือนอย่างกับเขาเลี้ยงไว้ในคอก ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กำลังใจจึงต้องยึดเกาะพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกแบบสุดชีวิต เพราะไม่รู้ว่าอันตรายจะมาถึงตัวเมื่อไร

ตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่นักปฏิบัติทุกคนต้องการ เพราะว่ากฎเกณฑ์กติกาความเป็นพระอริยเจ้าของเรานั้น ข้อแรกเลยก็คือต้องเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ท่านที่ออกธุดงค์ไม่มีอาวุธ นอกจากบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยที่อาราธนาไปปกป้องคุ้มครองตนเอง

เมื่อผ่านพ้นอันตรายต่าง ๆ ไปได้หลาย ๆ ครั้งเข้า ก็จะเกิดความเชื่อมั่นและเคารพในคุณพระรัตนตรัยแบบสุดจิตสุดใจ ทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก้าวเข้าใกล้ความเป็นพระอริยเจ้าได้ง่าย ก็แค่มาทบทวนศีลทุกสิกขาบทของตนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ตั้งใจว่า ถ้าหากว่าเราตายลงไปเมื่อไร เราขอมีพระนิพพานเป็นที่ไปอย่างเดียว แค่นี้เราก็เหยียบประตูความเป็นพระโสดาปัตติมรรคแล้ว สำคัญแค่ว่าเราสามารถก้าวเข้าประตูนั้นได้อย่างแท้จริงหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2022 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา