๑๐.๒ ผู้มีความรู้จะฉลาดสักปานใด ไม่ควรถือตัวว่าเป็นผู้ยิ่งกว่าผู้มีศีล ดูกรอานนท์บุคคลผู้ไม่มีศีล ปราศจากการรักษาศีล ไม่ควรกล่าวคำประมาทแก่ท่านผู้มีศีล หรือเข้าใจว่าตนเองดีกว่าผู้มีศีล จัดเป็นมิจฉาทิฎฐิ เป็นคนหลงทาง ห่างจากความสุขในมนุษย์,สวรรค์และพระนิพพานมาก เพราะเหตุว่าผู้มีศีล(อธิศีล) ได้ชื่อว่าใกล้ต่อพระนิพพานอยู่แล้ว จะถือเอาความรู้และความไม่รู้เป็นเครื่องวัดความดีไม่ได้ ต้องถือเอาการละกิเลสได้เป็นเครื่องวัด เพราะผู้จะเข้าถึงพระนิพพาน ต้องอาศัยการละกิเลสได้ส่วนเดียว เมื่อละกิเลสได้แล้ว แม้จักไม่มีความรู้มาก รู้แต่เพียงการละกิเลสได้เท่านั้น ก็อาจถึงพระนิพพานได้
๑๐.๓ การที่จะถึงพระนิพพาน ต้องละกิเลสเสียให้สิ้น ดูกรอานนท์ ตถาคตไม่สรรเสริญผู้มีความรู้แต่ไม่มีศีล ผู้มีความรู้น้อยแต่ตั้งอยู่ในศีล เราสรรเสริญและนับถือผู้นั้นว่าเป็นคนดี ถ้าบุคคลใดนับถือผู้มีกิเลสดีกว่าผู้ไม่มีกิเลส ชื่อว่าถือศีลเอาต้นเป็นปลาย เอาปลายเป็นต้น เอาสูงเป็นต่ำ เอาต่ำเป็นสูง ผิดทางแห่งพระนิพพาน เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นคนหลงโลก หลงทางแห่งพระนิพพาน
|