ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การที่ฆราวาสรับกฐินแทนพระ มีญาติโยมที่เลื่อมใสเข้าไปถวายกฐินกับท่านเป็นร้อยเป็นพัน โดยที่พระสงฆ์ทั้งหลายนั่งเป็นเครื่องประดับเท่านั้น ตรงจุดนี้ก็กรณีเดียวกับท่านอาจารย์ยันตระ ก็คือถ้าหากว่าพระผู้ใหญ่ที่โดนจับสึกด้วยข้อหาเงินทอนวัด มีกฎเกณฑ์กติกาใหม่ซึ่งกำหนดเป็นกฎหมายว่า ถ้าหากว่าต้องคดีถึงขนาดจำคุก ถือว่าสละสมณเพศด้วย ก็แปลว่าเหมือนกันกับท่านนี้ ก็คือคุณคือฆราวาส การแต่งตัวก็คือฆราวาส แต่ไปนั่งรับกฐินแทนพระ ก็ต้องบอกว่าบรรดาญาติโยมทั้งหลายเหล่านั้นน่าสงสารมาก เพราะว่าศรัทธาในตัวบุคคล โดยที่ไม่ได้ดูว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม หรือว่าถูกต้องตรงตามพระธรรมวินัยหรือเปล่า
เรื่องพวกนี้พระภิกษุสามเณรของเรา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาพระธรรมวินัยให้ชัดเจน จนกระทั่งสามารถที่จะบอกกล่าวและอธิบายได้ว่า ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมของเรานั้น อะไรผิด อะไรถูก อะไรควร อะไรไม่ควร ถ้าผิด ผิดมากแค่ไหน
สำหรับเรื่องนี้แล้ว ผมถือว่าหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าบุคคลที่จิตใจหยาบแล้วแต่งกายเลียนแบบพระพุทธเจ้า ซึ่งนอกจากจะมีโทษทางธรรมแล้ว โทษทางโลกอาจจะโดนข้อหาเหยียดหยามพระศาสนาได้ แต่นั่นเป็นเรื่องเฉพาะตัวเท่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2021 เมื่อ 01:50
|