ในเมื่อคณะสงฆ์แจ้งให้ท่านทราบ เพราะว่าท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหามาก ท่านก็บอกว่า "อาวุโส สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำนั้น เราขออนุโมทนาด้วย แต่เรายังจะปฏิบัติเฉพาะในส่วนที่ได้ยินมาต่อเบื้องพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น"
ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นการกระทำที่ผิดพลาด เพราะว่าหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง แต่ว่าการประกาศเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่ได้ประกาศช่วงที่ท่านอยู่ ท่านก็ถือว่าอะไรที่กูได้ยินมา กูก็ทำแค่นั้น ก็ทำให้เดือดร้อนตรงที่การปฏิบัติไม่เสมอกัน
แล้วก็กลายเป็นแนวปฏิบัติที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การสังคายนาครั้งที่ ๑ หลังจากพุทธปรินิพพาน ๓ เดือน แล้วก็ไปปรากฏชัดในการสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ ๒ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๑๐๐ ปี ก็ปรากฏว่ายังมีพระเถระรูปหนึ่ง ก็คือพระเรวัตตะเถระ ท่านอยู่ทันสมัยพระพุทธเจ้า เนื่องเพราะว่าท่านบวชเป็นเณรตอน ๗ ขวบ แล้วท่านอยู่จนอายุ ๑๒๐ ปี ท่านก็เลยทันการสังคายนาครั้งที่ ๑
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-11-2021 เมื่อ 20:14
|