ขอถวายความเคารพพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรมุนี วิ. ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ขอแสดงความนับถือท่านอาจารย์พระมหาวริทธิ์ธร วรเวที ตลอดจนผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมฝ่ายบรรพชิตทุกรูป และเจริญพรผู้เข้าปฏิบัติธรรมฝ่ายคฤหัสถ์ทุกท่าน
วันนี้ก็เป็นอีกวาระหนึ่งที่ได้มาบรรยายธรรม ซึ่งถือว่าเป็นวาระที่สำคัญมาก เนื่องจากว่าเป็นการปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเวลาได้ล่วงเลยมามากแล้ว จากการที่บรรยายธรรมคราวที่แล้ว มีผู้สนใจไต่ถามเป็นจำนวนมาก กระผม/อาตมภาพจึงตั้งใจว่า ในช่วงท้ายจะเหลือเวลาให้พวกเราได้สอบถามแนวทางในการปฏิบัติต่าง ๆ
สำหรับวันนี้ที่ได้รับหัวข้อในการบรรยายธรรมมาคือ อาหารใจ ท่านทั้งหลาย..ในเรื่องของอาหารนั้น ต้องบอกว่าในพระบาลียกให้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายศึกษาในประวัติของโสปากสามเณรก็ดี ชัมพุปริพาชิกาซึ่งตอนหลังก็คือกุณฑลเกสีเถรีก็ตาม
สำหรับโสปากสามเณรนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้เห็นว่าเป็นสามเณรเล็ก ๆ แต่เห็นว่าเป็นบุคคลที่ควรจักเป็นพระเถระ จึงเสด็จไปตรัสถามปัญหา เมื่อโสปากสามเณรตอบได้ถูกต้องทุกข้อ พระองค์ท่านก็ตรัสว่า โสปากสามเณรเป็นพระเถระแล้ว ซึ่งการบวชในลักษณะนี้ ภาษาบาลีเรียกว่า ปัญหาพยากรณูปสัมปทา คือการอุปสมบทด้วยการตอบปัญหาพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปัญหาข้อแรกก็คือ เอกํ นาม กิํ อะไรชื่อว่าหนึ่ง คำเฉลยก็คือ อาหารชื่อว่าหนึ่ง เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งอาหาร จึงสามารถที่จะดำรงขันธ์นี้อยู่ได้ ในส่วนของผู้ที่มีกายหยาบก็พึ่งอาหารหยาบ ผู้ที่มีกายละเอียดก็พึ่งอาหารทิพย์ เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-10-2021 เมื่อ 01:46
|