ดังนั้น...ถ้าหากว่าในช่วงที่ท่านทั้งหลายห่างวัด แทนที่จะปล่อยให้ตัวเราลอยตามกระแสโลก โดน รัก โลภ โกรธ หลง กลืนกินไป เราก็ฉวยโอกาส ก็คือพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ยกระดับการยึดถือปฏิบัติ จากศีล ๕ ขึ้นมาเป็นกรรมบถ ๑๐ หรือว่าศีล ๘ โดยเฉพาะเน้นในการภาวนาให้มากขึ้น เพื่อที่กำลังใจของเราจะได้มั่นคง สติของเราจะได้รู้รอบ แค่ขยับตัวก็จะรู้ว่าตนเองศีลขาดหรือไม่
ดังนั้น...การดำรงชีวิตอยู่ในยุคที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด เราควรที่จะระมัดระวังดูแลตนเองให้ดี เพราะว่าถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา กว่าจะรักษาให้หายนั้นยากมาก เนื่องจากว่าหมอสมัยใหม่ไม่มียารุเหมือนหมอแผนโบราณ หมอแผนโบราณมีการจ่ายยากระทุ้งไข้ แล้วจ่ายยารุ เพื่อที่จะตัดรากถอนโคนไข้นั้น ดังนั้น...ถ้าหากว่าผู้ที่เชี่ยวชาญการแพทย์แผนโบราณ จะไม่รู้สึกหนักใจกับเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เลย
แต่ว่าท่านทั้งหลายส่วนใหญ่ก็พึ่งพาอาศัยแพทย์สมัยใหม่ เจ็บป่วยขึ้นมาก็รักษายาก หายยาก ร่างกายชำรุด ทำอะไรไม่ได้ดีเหมือนเดิม จึงต้องเป็นผู้ที่ไม่ประมาท แล้วก็พยายามรักษาคุณงามความดีของตนเองเอาไว้ตามหลักของอนุรักขนาปธาน พยายามเพิ่มคุณงามความดีของตนเองขึ้นไปตามหลักภาวนาปธาน เพื่อที่เราเองจะได้อยู่รอดปลอดภัย กำลังใจไม่ถดถอย
สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายต่อพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยม ทั้งที่อยู่ที่นี่ อยู่ที่บ้าน อยู่ในประเทศ และอยู่ต่างประเทศแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2021 เมื่อ 03:07
|