โดยเฉพาะนักวิชาการต่าง ๆ นอกจากตั้งแง่รังเกียจว่า พระภิกษุสามเณรสมัยนี้สอนแต่ให้คนยึดติดวัตถุ แล้วยังตั้งแง่รังเกียจว่า ผู้สอนมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ ก็ต้องบอกว่าท่านทั้งหลายเอง ปฏิเสธในของที่ดีที่สุดไปอย่างน่าเสียดาย เพราะความฉลาดของตนเอง ต่างกับฝรั่งที่เขาเข้ามาพิสูจน์เลย
ปัจจุบันนี้แม้แต่ราชวงศ์อังกฤษ ทหารองครักษ์รักษาพระองค์ทั้ง ๔,๐๐๐ คน ต้องใช้คำว่า ๔,๐๐๐ นาย ทุกเช้าต้องนั่งสมาธิภาวนาอย่างน้อย ๑๕ นาที ถึงจะเข้าประจำตำแหน่งรับหน้าที่ของตนเองได้ เพราะมีผลการวิจัยที่ยืนยันอย่างเป็นระบบว่า บุคคลที่ทำสมาธิทุกวัน ผลการปฏิบัติงานจะดีกว่าคนที่ไม่ทำสมาธิหลายเท่า โดยเฉพาะความอดทนอดกลั้น ความยับยั้งชั่งใจ และความมีสติรู้จักพิจารณาว่าสถานการณ์แบบนี้จะแก้ไขอย่างไร
ดังนั้น...เมื่อไปเข้าร่วมการสัมมนาต่าง ๆ แล้วเห็นเด็กรุ่นใหม่เรียกร้อง ตั้งแง่ ตั้งข้อสงสัยกับพระพุทธศาสนา กับพระสงฆ์ กับคำสอนในศาสนาพุทธ อาตมาก็ไปนึกถึงสมัยก่อนพุทธกาล ที่มีศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ ถึง ๖๒ ลัทธิ
แต่จะว่าไปแล้ว ศาสดาเจ้าลัทธิทั้ง ๖๒ ลัทธินั้น ท่านเก่งจริง เพราะว่าปุพพันตกัปปิกทิฏฐิทั้ง ๑๘ สำนัก ท่านสามารถที่จะระลึกชาติได้ เพียงแต่ว่าการระลึกได้นั้น มากน้อยต่างกันตามวาสนาบารมีของตน จึงบัญญัติทิฏฐิของตนเองขึ้นมา ตามสิ่งที่ตนเองระลึกได้มากน้อยไม่เท่ากัน
ถ้าสมมติก็อย่างเช่นว่า สำนักแรกบันทึกว่า คนเราต้องเรียนจบ ป.๔ อีกสำนักหนึ่งเห็นไกลกว่า บัญญัติว่าคนเราต้องเรียนจบ ป.๖ อีกสำนักหนึ่งเห็นไกลกว่า ก็ว่าอย่างน้อยต้องจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ อีกสำนักหนึ่งบอกว่าต้องจบปริญญาตรี เป็นต้น
ส่วนอปรันตกัปปิกทิฏฐิทั้ง ๔๔ ลัทธินั้นมองเห็นอนาคต แต่ก็เห็นมากน้อยไม่เท่ากัน ถึงได้บัญญัติทิฏฐิ คือความเห็นของตนเองต่างกันไป บ้างก็ว่าตายแล้วเกิด บ้างก็ว่าตายแล้วสูญ บ้างก็ว่าตายแล้วลงทุคติ บ้างก็ว่าตายแล้วไปสุคติ บ้างก็ว่าตายแล้วไปเป็นเทวดา นางฟ้า บ้างก็ว่าตายแล้วไปเป็นพรหม มากน้อยตามที่ตนเองทำได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2021 เมื่อ 03:27
|