เราจะเห็นว่ากำลังสมาธิที่ฝึกฝนไว้ แม้กระทั่งเรื่องทางโลก อย่างเรื่องการเรียนตำรับตำรา เรียนหนังสือ ก็ยังสามารถที่จะใช้งานได้ดีมาก ถ้าหากว่าสมาธิไม่พอ คนสอนก็ลำดับเรื่องไม่ได้ ท้าย ๆ ก็จะสับสน ตรงนี้ท่านทั้งหลายที่สวดปาฏิโมกข์ได้จะรู้ ถ้าวันไหนสมาธิไม่ดีนี่ ตอนท้าย ๆ เละไม่เป็นท่าทุกราย..! เพราะว่าพอกำลังสมาธิไม่พอ การจดจำก็จะสับสน ลำดับเรื่องราวไม่ค่อยจะถูกแล้ว
ดังนั้น...เรื่องแบบนี้คนสอนจะหนักกว่า เพราะว่าต้องลำดับเรื่องราว แล้วก็สอนอย่างไรให้ลูกศิษย์เข้าใจ ส่วนคนฟังก็แค่ทุ่มเทสมาธิในการรับ แยกแยะเนื้อหาว่า เรื่องหลักคืออะไร ? เรื่องรองคืออะไร ? เนื้อหามีว่าอย่างไร ? คราวนี้ถ้าจับได้ว่าวันนี้เรื่องหลักคืออะไร เรื่องรองคืออะไร ก็ฟังเนื้อหาอย่างเดียว ก็สามารถทำความเข้าใจได้ตั้งแต่ต้นยันปลาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบรรดาท่านที่ศึกษามักจะขาดตรงจุดนี้ ก็คือถ้ารู้ว่าเรื่องหลักคืออะไร ? เรื่องรองคืออะไร ? ก็แค่ฟังเนื้อหาให้เข้าใจ แล้วเราก็จะสามารถอธิบายได้หมด
สมัยก่อนแม้กระทั่ง พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เจอหน้ากันเมื่อไร ท่านก็บอกว่า "ท่านเล็ก อย่าทิ้งสมาธินะ" เพราะว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพเรียนบาลีอยู่ ท่านบอกว่า "คนเรียนบาลี ถ้าทิ้งสมาธิ ไปไม่รอดสักราย"
ผมเองเรียนบาลี ไม่ได้ทิ้งสมาธิ แต่ไปไม่รอด เพราะว่าไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน จึงโดนมาลาเรียรับประทาน..! ท้ายสุดก็เลยต้องเลิกเรียน เพราะว่าการเรียนบาลีสำคัญที่สุดก็คือต้องท่องหนังสือหนีอาจารย์ อย่าให้อาจารย์แซงได้เป็นอันขาด ถ้าท่องหนังสือหนีอาจารย์ไม่ได้..ตายทุกราย เพราะสิ่งที่อาจารย์สอนเราจะไม่เข้าใจ มัวแต่ห่วงพะวงว่าจะท่องจำได้หรือเปล่า ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2021 เมื่อ 01:43
|