ดังนั้น...สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องวัดที่ดีที่สุดก็คือ การทำความดี โดยเฉพาะในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา เราทำดีเพราะอยากทำ หรือว่าเราทำดีเพราะอยากดี ? ถ้าเราทำดีเพราะอยากทำ เราจะทำได้ทน ทำได้นาน ทำได้ตลอดชีวิต ทำได้ตลอดไปอีกหลาย ๆ ชาติ แต่ถ้าเราทำดีเพราะอยากดี พอถึงเวลาความดีไม่ตอบสนอง เราก็จะหมดกำลังใจ..ท้อแท้
เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครที่ทำดีเพราะอยากดี กรุณาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ด้วยนะครับ โดยเฉพาะการทำเพื่อส่วนรวม การทำเพื่อประชาชน และการทำเพื่อชาวบ้านที่เคยอนุเคราะห์สงเคราะห์พวกเรามา
หลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ท่านพูดติดปากเสมอว่า "ทำเพื่อตนเองอยู่แค่สิ้นลม ทำเพื่อสังคมอยู่คู่ฟ้าดิน" กำลังใจตรงจุดนี้ สำหรับบางท่านอาจจะทำไม่ได้ เพราะว่าเรามาสายสาวกภูมิเต็ม ๆ แต่เชื่อผมเถอะครับ...ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมานั่งอยู่ที่วัดท่าขนุนนี้ อย่างไรเสียก็ต้องกระเส็นกระสายมีเชื้อสายพุทธภูมิมาบ้าง ต่อให้เป็นแบบตกกระไดพลอยโจน ไม่ได้เต็มใจ ก็ต้องมีอยู่บ้าง
เพราะฉะนั้น...เรื่องของการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ต้องดูใครหรอกครับ ตัวผมเองนี่แหละ ก่อนหน้านี้เห็นใครลำบาก..ทนไม่ได้ครับ ต่อให้เขาไม่เอ่ยปาก ก็แถเข้าไปช่วยเขาเอง แต่หลังจากที่ตั้งใจลาพุทธภูมิแล้ว ตอนแรกหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "แกระวังไว้นะ ลาพุทธภูมิแล้วกำลังใจจะตก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-08-2021 เมื่อ 22:34
|