ถ้าหากว่าท่านไปบวชสายวัดป่า ต้องเป็นตาผ้าขาวอยู่ ๒ ปี แต่ถือศีล ๒๒๗ ข้อ พร้อมอภิสมาจารเหมือนกับพระ เพื่อให้เคยชินเสียก่อนว่าถ้าเป็นพระแล้วต้องทำอย่างไร จนครูบาอาจารย์มั่นใจว่าเราไม่ผิดไม่พลาดแล้วถึงอนุญาตให้บวช แต่ว่าระยะหลังพระวัดป่าก็ผ่อนเบาลงไปมาก เพราะว่าหาคนบวชได้ยากขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ต้องทนเป็นตาผ้าขาวอยู่ ๒ ปี ในเมื่อหลักสูตรเร่งรัดของที่นี่แค่ ๗ วัน เราก็ต้องพยายามทำให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะการขานนาค คือการที่เราไปร้องขอต่อคณะสงฆ์ให้ยกเราขึ้นเป็นอุปสัมบัน คือพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ต้องเสียงดังฟังชัด พระที่อยู่ในโบสถ์ต้องได้ยินครบถ้วนทุกรูป ไม่ใช่กระซิบอยู่กับพระอุปัชฌาย์แค่สองคน ในเมื่อเราต้องไปร้องขอก็คือต้องว่าเอง ที่นี่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ไม่ช่วย ว่าไม่ได้ก็ไม่ต้องบวช..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ต้องใช้ความพยายามในการบวชมากกว่าที่อื่นเขา
แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อฝึกไปแล้วจนชิน จะทำให้การอยู่เป็นพระเป็นเณรของเราง่ายขึ้น เมื่อท่านบวชเข้ามาแล้ว มีสถานภาพเดียวก็คือพระใหม่ ที่ภาษาบาลีเรียกว่า นวกภิกขุ บุคคลที่บวชก่อนเราแม้แต่วันเดียว หรือว่าชั่วโมงเดียว หรือนาทีเดียวก็คือรุ่นพี่ พระสงฆ์ของเราเคารพกันตามอาวุโสพรรษา ต่อให้บวชชุดเดียวกัน ถ้าหากว่าคู่สวดเอ่ยชื่อก่อน เราเท่ากับเป็นพี่ ใครบวชทีหลังก็เป็นน้อง ต้องให้ความเกรงใจ ไม่ใช่ว่าคนอื่นบวชก่อนอายุน้อยกว่า เราบวชทีหลังอายุมากกว่า แล้วไปเบ่งใส่เขา ไอ้นั่นเป็นเรื่องของทางโลก ไม่ใช่เรื่องทางธรรม
ดังนั้น..รุ่นพี่ทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าหากว่ามีอะไรที่จะเมตตาบอกกล่าวสั่งสอน เราต้องรับฟัง ถ้าหากว่าผิดก็แก้ไข ถึงจะเรียกว่าเป็นการบวชเพื่อเอาดีจริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้ว การบวชนั้นง่าย แต่การอยู่ให้ "เป็นพระ" ของพระพุทธเจ้านั้นยาก ถ้าเราไม่ตั้งใจ ลด ละ เลิก กิเลสจริง ๆ ก็รังแต่จะสร้างบาปสร้างกรรมให้กับตัวเอง โดยเฉพาะถ้าสร้างกรรมในความเป็นปูชนียบุคคล ก็คือนักบวช โทษก็จะหนักกว่าคนธรรมดาทั่วไปเป็นแสนเท่า..! บวชไปแล้วขาดทุนตั้งแต่แรกเริ่ม
วันนี้ก็รบกวนเวลาของพวกเราทั้งหลายมาพอสมควร ก็ขอฝากข้อคิดเอาไว้สำหรับพวกเราทุกคนไว้แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2021 เมื่อ 01:46
|