ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 03-07-2021, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,123 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็ควรที่จะกระทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็คือ เมื่อมีโอกาสเราก็ให้ทาน พร้อมกับทรงศีลให้เป็นปกติ ถ้าสะดวกเมื่อไรก็เจริญภาวนา แต่ถ้าสามารถเจริญภาวนาได้ในทุกอิริยาบถ ก็จะเป็นเรื่องที่วิเศษมาก

อานิสงส์ของการให้ทานก็คือ ถ้าเราเกิดใหม่ จะเป็นผู้ที่สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติต่าง ๆ พูดภาษาชาวบ้าน ก็คือ "เกิดมารวย" เรื่องของศีลนั้น ทำให้เราเป็นผู้มีรูปร่างสวยงาม มีจิตใจดีงาม เรื่องของการเจริญภาวนา ทำให้เรามีปัญญามาก มีปัญหาทางโลกก็สามารถแก้ไขให้ลุล่วงไปได้โดยง่าย พบกับปัญหาทางธรรม ก็สามารถใช้ปัญญาตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานเข้าสู่พระนิพพานได้

ถ้าเราทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง สมมติว่าให้ทานอย่างเดียว เกิดมารวย แต่หน้าตาไม่สวยงาม ปัญญาไม่มี เราก็อาจจะเดือดร้อนด้วยทรัพย์สมบัติของตน ถ้าหากว่าเรารักษาศีลอย่างเดียว เกิดมาหน้าตาสวยงาม แต่ไม่มีเงินทองไม่มีปัญญา ก็เป็นเรื่องที่อยู่ยากอีก หรือถ้าเราเจริญภาวนาอย่างเดียว เป็นผู้มีปัญญามาก แต่ขาดโภคสมบัติต่าง ๆ ก็คงจะดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากเช่นกัน

ดังนั้น...ในเรื่องของทาน ของศีล ของภาวนา จึงต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อว่าคณะของท่านฤๅษีพุทธบุตรทำครบถ้วนสมบูรณ์อยู่ทุกด้านแล้ว เพราะว่าเป็นผู้ที่ตั้งใจนำพาหมู่คณะสร้างบุญสร้างบารมี ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นปกติ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ญาติโยมที่ฟังอยู่ทางบ้าน ถ้าหากว่าเราจะเลียนแบบทำตาม ก็ทำดังที่อาตมภาพได้กล่าวไป ก็คือทำให้ครบถ้วน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-07-2021 เมื่อ 17:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา