| 
				  
 
			
			พระอาจารย์เล่าเรื่องมะเมียะให้ฟังว่า  "สมัยก่อน  เชียงใหม่ของเราเป็นเมืองขึ้นของพม่าบ่อย  พอตอนหลังพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ  ความเจริญต่าง ๆ ก็ไหลไปอยู่ที่พม่าหมด   สมัยนั้น บรรดาลูกเจ้าลูกนาย ถ้าไม่ส่งไปเรียนที่อินเดียหรือยุโรป  ก็จะส่งไปเรียนที่มะละแหม่ง 
 เจ้าน้อยศุขเกษม  เป็นลูกของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ท่านส่งไปเรียนที่มะละแหม่ง  เพราะเดินทางไม่ไกลเกินไป  ปรากฏว่าเจ้าน้อยศุขเกษมไปพบรักกับมะเมียะ  ที่มะละแหม่ง  พอเรียนจบเจ้าน้อยก็พามะเมียะกลับมาด้วย   เจ้าพ่อท่านไม่พอใจ เพราะว่าตอนนั้นกรุงเทพฯ ที่เขาเรียกว่าสยาม  ปกครองล้านนาอยู่  และสยามกับพม่ายังถือว่าเป็นศัตรูกันอยู่  ในช่วงนั้นยังห่างจากสงครามกับพม่าครั้งสุดท้ายไม่นาน  พูดง่าย ๆ ว่ายังอยู่ในช่วงชีวิตของคน ๆ หนึ่งที่ยังฝังใจอยู่ว่าพม่าเป็นศัตรู    ตัวเองอยู่ใต้การปกครองของสยาม  ดันไปเอาสาวพม่ามาแต่งงานด้วย  ลองคิดดูถ้าหากว่าเป็นผู้ครองนครที่เขามองการณ์ไกล  เขาจะมองอย่างไร ?   กำลังเอาความเดือดร้อนมาให้แล้ว  ถ้าเกิดสยามเขาเอาเรื่องขึ้นมา  ล้านนาก็ตายพอดี  ก็เลยบังคับให้ส่งมะเมียะกลับ
 
 เจ้าน้อยศุขเกษมก็จำเป็นต้องจัดขบวนช้าง ส่งมะเมียะกลับ  คราวนี้การแสดงออกความเคารพของผู้หญิงพม่า  ผู้หญิงพม่าเขาจะไว้ผมยาวแล้วม้วนเป็นมวยขึ้นข้างบน  ถ้าเขาคลี่ผมมาเช็ดเท้าให้ใคร แสดงว่าเคารพคนนั้นเท่ากับชีวิตตนเอง  อาตมาไปอยู่พม่า  บางทีเจอแม่ออกแม่ขาว   เขาเคารพเรามาก  เขาคลี่ผมมาเช็ดเท้าให้เราเลย  ยังต้องมาคิดว่า ความดีเรามีพอหรือนี่ ?
 
 ฉากที่มะเมียะเขาคลี่ผมมาเช็ดเท้าให้เจ้าน้อยศุขเกษม  ทำให้คนที่ใจแข็งขนาดไหน  ก็มีความรู้สึกว่า เราไม่น่าจะไปพรากชายหญิงคู่นี้ออกจากกัน
 
 เมื่อมะเมียะกลับไปมะละแหม่ง  เจ้าน้อยกินไม่ได้นอนไม่หลับ   ป่วยตายเลย  ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาเรียกว่าตรอมใจตาย   แต่มะเมียะกลับไปมะละแหม่ง  ไปบวชชีอยู่ที่วัดไจ๊ซานลาน  ยังดีที่อาตมามารู้เรื่องนี้ทีหลัง ไม่อย่างนั้นจะไปเดินดูว่ามีประวัติตรงนี้อยู่หรือเปล่า ?  ถ้ามีโอกาสไปใหม่  จะลองไปสืบประวัติดู  เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือในราชสำนักฝ่ายเหนือมาก  ทางพม่าเขาก็นิยมพวกจดหมายเหตุ  น่าจะมีบันทึกเอาไว้บ้าง"
 
หมายเหตุ : รูปเจ้าน้อยศุขเกษมค่ะ http://www.oknation.net/blog/home/bl...ic1/jonas3.jpg 
ส่วนรูปมะเมียะหาไม่ได้
		
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2010 เมื่อ 18:49
 |