วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ วันนี้ผมไปเป็นกรรมการสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์มา ในเรื่องของคณะสงฆ์ของเรา มีแค่ไม่กี่ตำแหน่งหลัก ๆ ที่จะช่วยให้พระพุทธศาสนาของเรามั่นคงยั่งยืนได้
ตำแหน่งแรกเลยก็คือพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ก็คือพระอุปัชฌาย์และอาจารย์คู่สวด เพราะว่าถ้าพระอุปัชฌาย์เข้มงวด เราก็จะได้บุคคลที่มีคุณภาพ หรือว่ามีความตั้งใจบวชอย่างแท้จริงเข้ามา อีกตำแหน่งหนึ่งก็คือเจ้าอาวาส ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสมีความเข้มงวดกวดขัน ทำหน้าที่ของตนโดยเคร่งครัด ไม่เห็นแก่หน้าใคร พระภิกษุสามเณรก็จะอยู่ในกรอบของระเบียบวินัยเป็นอย่างดี
วันนี้นอกจากมีการสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์แล้ว ยังมีการมอบตราตั้งเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส และพระฐานานุกรมด้วย ดังนั้น..สองเรื่องสองตำแหน่งที่สำคัญ ก็เลยกลายเป็นงานเดียวกัน
การสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์นั้น ปกติแล้วคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีจะสอบพร้อมกับการอบรมพระอุปัชฌาย์ระดับจังหวัด มาปีนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มกฎกติกาเข้ามาว่า บุคคลที่จะสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์นั้น จะต้องผ่านหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นระดับปริญญาหรือว่าระดับประกาศนียบัตรก็ตาม จึงได้แยกการสอบพระอุปัชฌาย์และพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ออกจากกัน เพื่อเปิดโอกาสให้บรรดาท่านที่ยังไม่ได้ผ่านหลักสูตร ได้สมัครเรียนกับทางมหาวิทยาลัยเสียก่อน
กฎเกณฑ์กติกาข้อนี้เป็นเฉพาะของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี แบบเดียวกับที่กฎเกณฑ์การเป็นพระอุปัชฌาย์ของเจ้าคณะใหญ่หนกลางแต่เดิมก็คือ ผู้ที่จะสอบพระอุปัชฌาย์ได้ต้องมีพรรษาพ้น ๒๐ ถ้าว่ากันตามพระธรรมวินัยแล้ว ให้มีพรรษาพ้น ๑๐ มีความรู้ในเรื่องของพระธรรมวินัยอย่างสมบูรณ์ สามารถที่จะอบรมสั่งสอนกุลบุตรให้รู้ตามได้ ส่วนเจ้าคณะใหญ่หนอื่น ๆ ก็มีกฎเกณฑ์กติกาของแต่ละหน อย่างเช่นว่านับพรรษาที่ ๑๕ บ้าง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2021 เมื่อ 01:07
|