พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็ก ๆ ส่วนใหญ่เอาแต่เล่นสนุก ลืมคิดถึงเรื่องอันตราย ลืมคิดถึงเรื่องอื่น ๆ บางทีพ่อแม่ก็ปวดหัวจะแย่ สมัยอาตมาเด็ก ๆ ก็โน่น..กลับจากโรงเรียนก็แวะเล่นน้ำก่อน ครูตามไปตีข้างบ่อเลย ยังไม่ถึงบ้านถือว่าเป็นภาระของครู
ครูสมัยก่อนสปิริตสูงมาก กลางทางจะถึงบ้านอยู่แล้ว ถ้ายังไม่ถึงบ้านยังถือเป็นภาระของครู "ถ้าเธอเป็นอะไรไป ทางพ่อแม่จะไปเล่นงานครู เพราะฉะนั้น..ครูตีเธอตรงนี้เลย" ให้ไปตัดกิ่งสนมา ฟาดทีเดียวแตกสองแผลเลย ส่วนใหญ่จะตีน่อง แล้วไอ้เด็กแก้ผ้าโดดน้ำก็ไม่มีอะไรเหลือติดตัว ตีตรงไหนก็แตกตรงนั้น
ถ้าเป็นไปได้ อาตมาอยากให้ทางกระทรวงคืนไม้เรียวให้ครู อะไรที่โบราณเขาว่า ก็คือประสบการณ์ที่ตกผลึกแล้ว จัดเป็นภูมิปัญญาที่เถียงได้ยาก "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" การที่เราจะเลี้่ยงลูกแบบเพื่อนได้ เด็กจะต้องสั่งสมบุญในอดีตมามากพอ ในระดับที่จะมีจิตสำนึกด้วยตนเองเท่านั้น ไม่อย่างนั้นไม่มีทาง ถ้าเห็นพ่อแม่เป็นเพื่อน ไม่มีที่ให้เกรงใจ ก็มักจะออกมาเป็นเด็กนรกอย่างที่เห็น แล้วส่วนใหญ่สมัยนี้พ่อแม่ก็ไม่กล้าตีลูก ต่างประเทศหลายประเทศมีกฎหมายเลย ตีลูกเมื่อไร พ่อแม่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2021 เมื่อ 17:17
|