ถาม : ในบทสวดสัมพุทเธ ที่กล่าวถึงจำนวนพระพุทธเจ้าในอดีตที่ตรัสรู้ไปแล้ว ทำไมพระพุทธเจ้าแบบวิริยาธิกะถึงมีจำนวนมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาสร้างบารมียาวนานที่สุด แต่พระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะถึงมีจำนวนน้อยที่สุด ทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาสร้างบารมีสั้นที่สุดครับ ?
ตอบ : เพราะว่าผู้ที่มากด้วยปัญญามีน้อยกว่าผู้ที่มากด้วยศรัทธาและวิริยะ
ถาม : ในช่วง ๔ อสงไขยล่าสุดที่ผ่านมา ทำไมจึงมีพระพุทธเจ้าตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ถ้าหากว่าย้อนกลับไปดูพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์แรกของภัทรกัปนี้ ท่านสร้างบารมีในช่วงปรมัตถบารมี ใช้เวลา ๘ อสงไขย และในช่วงนี้ท่านได้พบเจอกับพระพุทธเจ้าในอดีตมากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ ถ้าหากแบ่งช่วง ๘ อสงไขยล่าสุดเป็น ๒ ช่วง ช่วงละ ๔ อสงไขย ก็จะพบว่าช่วง ๔ อสงไขยแรกมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ และในช่วง ๔ อสงไขยหลังมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ทำไมจึงต่างกันมากขนาดนี้ครับ ?
ตอบ : ๘ อสงไขยกัปเป็นช่วงท้ายของการสร้างบารมี คุณไม่ได้นับช่วงต้นและช่วงกลางเข้าไปด้วย
ถาม : ในยุคปัจจุบันนี้เป็นภัทรกัป และในกัปถัดไปก็จะเป็นภัทรกัป ทำให้ ๒ กัปติดกันมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๑๐ พระองค์ แล้วในอนาคตจากนี้ไปจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ติด ๆ กันคราวละมาก ๆ แบบนี้อีกไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าวาระครบถ้วนก็ต้องมีจนได้ จะรอดูไหม ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|