เห็นศีลแปดเป็นของสนุก
ถาม : เรื่องศีลแปด ได้ยินมาหลายแบบ ว่ากินข้าวเย็นก็ได้ จะกินก็อธิษฐานว่าขอลาก่อน ๕ นาทีหรือ ๑๐ นาที หรือบางคนกินข้าวเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต่อด้วยศีลแปด ?
ตอบ : ถ้าทำในลักษณะนั้นจะเกิดโทษปรามาสพระรัตนตรัย เห็นการรักษาศีลเป็นของสนุก เห็นการทำให้ศีลขาดเป็นของสนุก ละแล้วคือละเลย เพราะว่าการตั้งใจงดเว้นจึงจะเกิดบุญกุศลจริง นั่นตั้งใจทำผิดเลย เพราะฉะนั้น...ในส่วนที่รักษาได้ก็เป็นบุญไป ในส่วนที่ตั้งใจละเมิดก็เป็นบาปไป แต่ว่าในส่วนของศีลแปดตั้งแต่ศีลข้อที่ ๖ ขึ้นไป เราละเมิด...โทษที่จะลงนรกโดยตรงไม่มี แต่ว่าโอกาสที่จะเข้าถึงธรรมก็ช้าลง เพราะว่าเป็นส่วนของธรรมะ ถ้าเราสามารถทำได้ก็จะช่วยให้กำลังใจเราเข้าถึงธรรมได้ง่ายขึ้น ถ้าเราทำไม่ได้ก็แปลว่าเราเข้าถึงธรรมช้าลง
ถ้าหากใครทำในลักษณะอย่างนั้น โปรดทราบว่า เรากำลังเกิดโทษปรามาสพระรัตนตรัยแล้ว เป็นกันเองกับศีลขนาดบัญญัติเองแล้ว ถ้าเราดูในชาดกที่เทวดาคนใช้ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านบอกขนาดเด็กทารกยังให้บ้วนปาก แต่จริง ๆ เรามาคิดดูว่านมแม่กับพวกน้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำตาลที่ได้รับพุทธานุญาต ความจริงก็คล้ายกัน น่าจะแทนกันได้ แต่คราวนี้ศีลแปดของเขาหมายความว่า งดเว้นจากอาหารหลัก ในเมื่อเด็กทารกอาหารหลักของเขาคือนม ก็งดเสีย แล้วก็มาตั้งใจรักษาศีลแปด มาปฏิบัติตามโดยการกินเภสัช ๕ แทน ในเมื่องดเว้นจากอาหารหลักแล้วมารับเภสัชแทน ก็แปลว่าเราตั้งใจที่จะงดเว้นจริง ๆ กุศลจึงจะเกิด
สมมติว่า วันนี้สตางค์เหลือน้อยไม่พอซื้อข้าว ก็อย่ากินเลย นี่ไม่ใช่เจตนาที่จะรักษาศีล แต่สภาพการณ์บังคับ อานิสงส์ไม่มี เพราะไม่ได้ตั้งใจงดเว้น
ถาม : อ้าว..ถ้าไม่มีเงิน ก็เลยนึกว่า รักษาศีลแปดดีกว่า ?
ตอบ : ได้..ถ้าอย่างนั้นความตั้งใจมี
ถาม : แล้วถ้าวันไหนผมทำงานหนักขึ้นมา ตกกลางคืนหิวมาก แล้วกลัวว่าถ้าปฏิบัติธรรมแล้วไม่มีแรง ก็เลยไปหาอะไรกิน ?
ตอบ : ก็แปลว่าปฏิบัติธรรมไป ผลก็เกิดน้อย เนื่องจากว่าเรายังรักตัวเองมากอยู่ ตัดใจไม่ได้ อย่าว่าแต่ตายเลย แค่หิวเราก็ไม่กล้าแล้ว ในเมื่ออยู่ในลักษณะนั้น ความรักตัวเองมีมากกว่า สักกายทิฏฐิก็ละไม่ได้ ตัวสมาธิภาวนาอาจจะทรงได้ เพราะร่างกายสบายขึ้น แต่ขณะเดียวกันกินอาหารไปใหม่ ๆ ไฟธาตุวิ่งไปย่อยอาหาร เลือดที่จะหล่อเลี้ยงสมองไม่มี ก็ง่วงซึม อาจจะทำให้ภาวนาไม่เป็นสัปปะรดไปเลยก็ได้
ถาม : ศีลแปดนี่เป็นเรื่องของธรรมะโดยตรงนะครับ ?
ตอบ : ละเอียดกว่าศีลห้าหลายเท่า
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ถาม-ตอบ ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2014 เมื่อ 16:25
|