| 
				 อดทนอดกลั้น 
 
			
			ถาม :  บวชรอบหน้าก็ยังเฮฮาเหมือนรอบนี้หรือครับ ?ตอบ : ถ้าบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติตามศีล เฮฮาอย่างนี้ไม่ได้หรอก  เพราะกลัวพลาด  เราต้องปรับตัวไประยะหนึ่ง ประมาณสัก ๒ - ๓ พรรษา  แล้วแต่ว่ารู้ตัวช้าเร็ว  แล้วเราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศีล    ชนิดที่ว่าขยับตัวก็รู้ว่าศีลจะขาด
 
 ถาม :  รอบที่ผ่านมาก็เฮฮาแล้ว  กลัวรอบหน้าจะเฮฮากว่าเดิมครับ ?
 ตอบ :  อย่าลืมว่าสมัยก่อนศีลครบถ้วนสมบูรณ์ทุกสิกขาบท  พระท่านไปพระนิพพานกันนับไม่ถ้วน  สมัยนี้ศีลเกี่ยวกับภิกษุณีก็ดี  เกี่ยวกับการสร้างเครื่องใช้ไม้สอยก็ดี  เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นแล้ว  เพราะว่าภิกษุณีไม่มี  เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ  ญาติโยมถวายให้ใช้พอเพียง  เราได้กำไรมา  ๖๐ - ๗๐  ข้อแล้ว    ต้นทุนขนาดนี้ถ้ายังเอาดีไม่ได้ ก็เอาหัวโขกข้างฝาเถอะ..!
 
 อย่าลืมว่าในการบวชนั้น แรก ๆ เราก็คือลูกชาวบ้าน  รัก โลภ โกรธ หลงเต็มตัวเหมือนกัน  แต่ว่าเปลี่ยนเครื่องแบบ  เปลี่ยนกฎกติกาในการดำเนินชีวิตมา  กว่าจะปรับให้คุ้นชินได้ก็นาน   ฉะนั้น..ก่อนที่จะปรับให้คุ้นชินได้   จะเป็นตอนที่ลำบากที่สุด  เพราะโลภะ  ราคะ  โทสะ  โมหะ ไม่รอเราปรับ แต่เข้ามาตลอดเวลา  มีอย่างเดียวก็คือ ต้องดื้อสู้กันไป
 
 อย่าลืมว่าโอวาทปาฏิโมกข์พระพุทธเจ้าท่านขึ้นต้นว่าอย่างไร   ขันตี  ปรมัง  ตโป  ตีติกขา    ขันติ คือความอดทน เป็นตบะ (ความเพียรในการเผากิเลส) อย่างยิ่ง  คือไม่มีอะไรที่จะประดับนักปราชญ์ให้งามไปยิ่งกว่าความอดทนอดกลั้นอีกแล้ว  การสู้กับกิเลสมีอะไรที่ไม่ต้องทน  ถามหน่อย ?   ถ้าทนไม่ไหวก็สึกหาลาเพศ กระเด็นจากผ้าเหลืองไป  หรือไม่ก็ยอมเลวหน้าด้านอยู่กับผ้าเหลือง  มีเยอะแยะอีกเท่าไรก็ไม่รู้  แต่ว่าจะไปรู้เอาตอนตาย  ซึ่งตอนนั้นก็แก้ตัวไม่ทันแล้ว
 
 ฉะนั้น...ครูบาอาจารย์ในอดีตท่านอดทนอดกลั้นมาตลอด จนกระทั่งประสบความสำเร็จ  ต้องบอกว่าคนเกิดมาบุญไม่เท่ากัน   บางทีต้นทุนเรามากกว่าท่านด้วย  คำว่าต้นทุนมากกว่าท่าน  ก็คือ ท่านไปหมดแล้ว แต่เรายังมีเวลาสะสมอีกนาน  แต่สะสมดีหรือชั่วไม่รู้นะ  แสดงว่าต้นทุนเราเยอะกว่า  เมื่อต้นทุนเราเยอะกว่า  ท่านทำได้เราต้องทำได้  แล้วก็บ้าลุยไปเลย
 
 ถาม : เอาต่ออีกรอบนะ ?
 ตอบ : เอาบ่อย ๆ  เอาหัวเป็นเขียงลับมีดไปเรื่อย  เดี๋ยวพอมีดคมได้ที่ เราก็ได้ที่เหมือนกัน
 
 
 พระครูธรรมธรเล็ก  สุธมฺมปญฺโญ
 ถาม-ตอบ  ช่วงเย็น  ณ  บ้านอนุสาวรีย์
 วันศุกร์ที่  ๑  มกราคม  ๒๕๕๓
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2014 เมื่อ 14:11
 |