“คราวนี้พอโตขึ้นมาหน่อย เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ก็เกิดข้าวยากหมากแพงอีกรอบหนึ่ง ตอนนั้นจำได้ว่าทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ปีแรก ๆ ประมาณปี ๒๕๑๙-๒๕๒๐ ต้องมีการปันส่วนอาหารกัน ใครที่ทันเหตุการณ์ตอนนั้นจะจำข้าวโอชาได้ ข้าวโอชาเป็นการใช้ข้าวเหนียว ๓๐ เปอร์เซ็นต์ปนกับข้าวเจ้า แต่ละบ้านต้องมีบัตรปันส่วนว่า แต่ละเดือนซื้อข้าวได้กี่ลิตร เสร็จแล้วก็มาเจอการลอยตัวค่าเงินบาทในช่วงสมัยรัฐบาลป๋าเปรม มาเจอวิกฤตต้มยำกุ้งปี ๒๕๔๐ แล้วปัจจุบันนี้ก็คือวิกฤตโควิด-๑๙ ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าลำบาก ยังสามารถช่วยเหลือคนอื่นเขาได้เป็นปกติ
ดังนั้น..ในส่วนที่เล่ามา ก็ไปนึกถึงคำโบราณที่ว่า “ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ” จะบอกว่าสบายก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเคยทนลำบากมากกว่านั้นมา ลำบากที่เห็นในปัจจุบันนี้ก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับตัวเราเอง”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 02:47
|