พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้ปลายฝนต้นหนาวแล้ว บ้านเราก็จะมีฝนอีกประมาณสิบวันและค่อนข้างหนักด้วย หลังจากนั้นจะหนาวกะทันหัน กรมอุตุฯ ที่นั่งอยู่ตรงนี้บอกเอง..!
เพราะฉะนั้น..ถ้าบ้านไหนมีคนแก่ มีคนป่วยอยู่ ต้องดูแลรักษาให้ดี คนแก่หรือคนป่วยมีร่างกายอ่อนแอ ทนความเปลี่ยนแปลงกะทันหันของอากาศไม่ได้ ถ้าญาติโยมทุกคนรู้จักสังเกตจะเห็นว่า ช่วงรอยต่ออากาศ ไม่ว่าจะเป็นปลายฝนต้นหนาว ปลายหนาวต้นร้อน หรือปลายร้อนต่อฝน คนจะตายกันมาก ดังนั้น..ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี
ส่วนของอาตมานี่ไม่ต้องดูแล อย่างไรก็ไม่มีทางดีได้ เพราะว่าทำกรรมเอาไว้เยอะ..น่าภาคภูมิใจ..! หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “แกเป็นทหาร ฆ่าเขามาทุกชาติ เพราะฉะนั้น..ชาตินี้จะป่วยบ่อย อายุสั้นพลันตาย” อาตมาโดนต่อวีซ่ามาจนป่านนี้ ไม่ยอมให้ตายสักที ชีวิตที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ อยู่หนึ่งวัน..ก็กำไรหนึ่งวัน อยู่หนึ่งวัน..ก็ตั้งใจสร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาให้มากที่สุดไปอีกหนึ่งวัน
บางคนทั้งพระและฆราวาสถามว่า “พระอาจารย์ครับ..หลวงพ่อครับ ทำไมทำงานหนักขนาดนี้ ?” เรียนพระท่านไปและบอกกับญาติโยมไปว่า “เรามีวันนี้วันเดียว ต้องทำให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสได้ทำหรือเปล่า ? ในเมื่อเก็บตกชีวิตคืนได้ ก็ต้องสร้างประโยชน์ให้กับโลกให้มากที่สุด ไม่ว่าประโยชน์นั้นคนจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ขอให้ได้ทำ ก็ถือว่าสิ่งที่ทำนั้น เราได้ทำแล้ว ส่วนทำไปจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่เคยคิดถึง”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2020 เมื่อ 18:49
|