“หลังจากนั้นถึงมาตัดสินกันตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งก็ปรากฏว่ามาถึงชั้นอุทธรณ์ ศาลท่านตัดสินว่าไม่มีความผิดใด ๆ เลย ในเมื่อไม่มีความผิดใด ๆ เลย ย่อมไม่กระทบกับสถานภาพใด ๆ ของท่าน ท่านกลับมาห่มเหลืองใหม่ ก็เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ของเราควรที่จะช่วยกันปกป้องและเชิดชูท่านในฐานะผู้บริสุทธิ์
แต่กลายเป็นว่าสำนักพุทธฯ สามารถจูงจมูกมหาเถรสมาคมได้..! ก็คือเสนอเพื่อทราบเท่านั้น มหาเถรสมาคมรับทราบก็จบ ส่วนอดีตหลวงพ่อพระพรหมดิลก ก็ได้ความผิดเพิ่มเติมคือ แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์..!
อาตมาจึงได้เห็นว่าในปัจจุบันนี้มีปัญหาในสองเรื่อง คือ ในเรื่องของการเอาฆราวาสมาปกครองพระอย่างหนึ่ง ในเรื่องของพระเถระที่เอาแต่ตัวเองรอด ไม่ได้สนใจที่จะปกป้องพระภิกษุสามเณรอีกอย่างหนึ่ง การเอาฆราวาสที่ศีลไม่ครบ ๕ ข้อมาปกครองพระที่มีศีล ๒๒๗ ข้อนั้น ไม่ถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรมอยู่แล้ว”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2020 เมื่อ 16:00
|