เหตุใดภิกษุต้องใช้ผ้าย้อมน้ำฝาด
ถาม : น้ำฝาดเป็นอย่างไรคะ ? คำว่าผ้าย้อมน้ำฝาด ?
ตอบ : น้ำฝาดนี่มาจากภาษาบาลีว่า กาสาวะ แปลว่า น้ำฝาด คือ น้ำต้มจากเปลือกไม้ หรือว่าน้ำต้มจากเเก่นไม้
ถาม : แล้วส่วนใหญ่สมัยก่อนนี่ ผ้าจีวรพระย้อมมาจากน้ำต้มแก่นไม้อะไร ?
ตอบ : ส่วนใหญ่เป็นไม้ขนุน หรือไม่ก็เหง้าไม้อย่างขมิ้น
แต่ว่ามีอยู่องค์หนึ่งคือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ท่านไปอยู่ที่ฉัตทันตสระ หาแก่นขนุนมาต้มทำย้อมจีวรไม่ได้ ท่านก็เลยใช้ดินลูกรังเอามาต้มทำย้อมจีวร ผ้าเลยสีแดงผิดชาวบ้านเขา
ถึงเวลาที่ท่านเข้ามากราบพระพุทธเจ้า บรรดาพระใหม่ ๆ ไม่รู้จักนี่...ดูหลวงตาองค์นั้นสิ..น่ากลัวจังเลย ผอมมีแต่เอ็นสะพรั่งไปทั้งตัว นุ่งห่มจีวรสีอย่างกับเลือด พระพุทธเจ้าได้ยินต้องเรียกประชุมเลย บอกว่า "นี่เธอไม่รู้จักพี่ชายใหญ่ของพวกเธอหรือ ?"
พระอรหันต์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ถ้าไม่นับพระพุทธเจ้า โดนนินทาเต็มเปาเลย ท่านไปอยู่ในป่าสบายใจของท่าน อยู่กับช้างเป็นร้อย ๆ เชือก
ถาม : เรื่องจีวร ทำไมครั้งแรกต้องย้อมน้ำฝาดเป็นสีส้มค่ะ ?
ตอบ : คือว่าสมัยก่อนนี่ บุคคลที่นุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาดเขาถือว่าเป็น อนาคาริก คือผู้ที่ไม่มีบ้านเรือน ลักษณะแบบคนพเนจร จรจัดไม่มีเวลามาหาของดี ๆ ที่จะมาประดับมาตกแต่งอะไรกัน
พระพุทธเจ้าต้องการลดต้นทุนลงมาให้ต่ำที่สุด เพื่อให้คนที่ถึงเวลาแล้ว คนชั้นต่ำสุดจะได้คิดว่า เออ..อย่างน้อย ๆ พระสมณโคดมก็เป็นพวกเดียวกับเรา จะได้กล้าเข้ามาหาท่าน ประโยชน์ของเขาจะได้ไม่เสียไป
ถาม : แสดงว่าเป็นความนิยมของคนสมัยก่อน ?
ตอบ : แล้วอีกอย่างหนึ่ง สมัยก่อนนี่คนโกนหัวเขาถือว่าเป็นกาลกิณี คนโกนหัวหรือผมสั้น ๆ นี่เขาถือว่าเป็นกาลกิณี ที่ไม่มีใครยอมคบด้วย แต่ให้สังเกตว่า จนกระทั่งในตอนนี้พวกอินเดียก็ยังไว้ผมมวยทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ไว้ผมยาว ๆ กัน..ใช่ไหม ?
คราวนี้เมื่อเขาถือว่าเป็นกาลกิณีอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านปลงเกศาไปเลย พูดง่าย ๆ ว่าตัดหนทางถอยของตัวเอง กลายเป็นคนที่เขาไม่ยอมคบกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วนี่ ถ้ากลับไปครองราชย์ก็ไม่มีใครเขาเอาด้วย ถึงเวลาจะได้ลุยขึ้นหน้าอย่างเดียวไม่ต้องไปพะวงหลัง
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2014 เมื่อ 10:26
|