ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 28-12-2009, 16:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,363 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าเรามั่นใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แต่ระยะเวลาและผลกระทบอาจจะมากหน่อย กว่าจะดับก็ช้าหน่อย และแทนที่จะดับ หลายต่อหลายคนก็จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดต่อด้วย ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเบื้องหลัง เขาบอกว่าทำเพื่อสถาบัน ทำเพื่อในหลวง ถ้าเราฟังสมเด็จพระเทพฯ ก็จะเห็นว่าท่านพูดชัดเจนมาก ท่านให้สัมภาษณ์ข่าวต่างประเทศว่า "เขาทำเพื่อตัวเขาเอง"

ถ้าหากรักในหลวง ในหลวงตั้งรัฐบาลไปเขาไม่ยอมรับ เขารักจริงหรือเปล่า ? และฝ่ายที่ตั้งไปก็ปฏิญาณต่อหน้าในหลวงว่า จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ยังไม่ทันจะทำเลยก็แย่งเก้าอี้กันแล้ว ต่างประเทศอย่างอังกฤษ เขามีแค่สองพรรค อนุรักษ์นิยมกับประชาธิปไตย ทั้งสองพรรคเขาทำงานร่วมกัน ทันทีที่พรรคหนึ่งเข้าไปเป็นรัฐบาล อีกพรรคหนึ่งจะตั้งคณะรัฐบาลเงาขึ้นมาทันทีเลย ให้คนนี้เป็นนายกฯ คนนี้เป็นรองนายก คนนี้เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย คนนี้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ฯลฯ เหมือนกับรัฐบาลทุกอย่างและทำงานร่วมกัน ถึงเวลาประชุมสภา ฝ่ายค้านประชุมด้วย ถ้าฝ่ายค้านมีความคิดใดที่ดีกว่ามาเสนอ รัฐบาลก็รับไปทำและให้เครดิตว่าเป็นความคิดของฝ่ายค้าน ก็จะเป็นการสานต่อนโยบายหนุนเสริมกันตลอด บ้านเขาจึงเจริญ ถ้ารัฐบาลมีอันต้องร่วงลงกระทันหัน ฝ่ายค้านเข้ามารับหน้าที่ทำได้เลย เพราะเขาทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว ทุกคนที่บอกว่าเป็นรัฐมนตรีเงา เขาก็ทำตัวเหมือนรัฐมนตรีจริง ๆ รับรู้ขั้นตอนการบริหารทุกอย่างเพราะทำงานร่วมกัน

แต่บ้านเราไม่มี บ้านเรามีแต่เลื่อยขาเก้าอี้บ้าง แทงข้างหลังบ้าง สาดโคลนบ้าง ดังนั้น..ประชาธิปไตยบ้านเราก็เลยกลายเป็นประชาธิปไตยน้ำเน่า หาความเจริญได้ยาก แต่จะว่าไปแล้วต่างประเทศเขาใช้ระบบนี้มาก่อนหน้าเราเป็นร้อย ๆ ปี พัฒนาการของเขาก็เลยล้ำหน้าเราไป บ้านเราถ้านับแล้วตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ เป็นต้นมา มันก็เพิ่งขึ้นเป็นปีที่ ๗๖ ถามว่านานไหม ? นาน..แต่ถ้านับเป็นพัฒนาการของการเมือง ก็แค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ยังไม่นานเท่าไร เพราะบ้านเมืองเรายังไม่พร้อม

รัชกาลที่ ๖ เยี่ยมมากเลย ท่านค่อย ๆ สอดแนวคิดประชาธิปไตยให้ชาวบ้านรับรู้ไปทีละน้อย ๆ ออกหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิตให้ชาวบ้านวิจารณ์ได้ ท่านเองก็เขียนตอบ สร้างดุสิตธานีขึ้นมาเพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย รัชกาลที่ ๗ ก็รับช่วงขึ้นมา ท่านรู้ว่ายังไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง ต้องบอกว่าคนไทยมีนิสัยขี้ข้ามานาน ถ้าไม่มีคนจิกหัวใช้ก็ไปไม่เป็น คิดเองไม่เป็น ทำเองไม่เป็น รัชกาลที่ ๗ เกรงว่าตรงนี้คนไทยจะเอาตัวไม่รอด ก็เลยค่อย ๆ ขยับทีละน้อย ๆ แต่คณะราษฎร์ใจร้อน ถล่มพระองค์ท่านลงมาเสียก่อน ตลอดเวลา ๗๖ ปี ประชาธิปไตยบ้านเราไม่เคยเต็มใบเลย เพราะมีเผด็จการทหารแทรกขึ้นมาเป็นระยะ ๆ แต่ละระยะยาวนานมาก

เพราะฉะนั้น...พัฒนาการจึงก้าวหน้าช้า แต่ไม่ใช่ว่าไม่ก้าวหน้าเลย อย่างน้อย ๆ บ้านเรา การตรวจสอบของภาคประชาชนก็เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปใครเป็นรัฐบาล โอกาสที่จะไปงุบงิบโกงกินใครก็ยากขึ้น แต่ว่าช้า เราใจร้อนไม่ได้ ต้องให้ค่อยเป็นค่อยไปตามครรลองของเขา ถ้าหากทุกวันนี้ที่เขาเรียกร้องกันอยู่ เราลองมาคิดกันว่าประชาธิปไตยคืออะไร โดยประชาชน เพื่อประชาชน แล้วปัจจุบันนี้คืออะไร ? เสียงส่วนใหญ่เลือกนักการเมืองมาให้ทำหน้าที่ จะดีจะชั่วอย่างไรเราต้องยอมรับ ถ้ามีความเป็นสุภาพบุรุษพอ มีความใจกว้างพอ อีกสี่ปีค่อยว่ากันใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2014 เมื่อ 11:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา