ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-12-2009, 15:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,350 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความใจร้อนใจเร็วตามสถานการณ์ ถ้าหากเอาตามหลักการค้าของจีน พวกกู้จะเป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่ทันจะเริ่มกิจการ เราสังเกตดูคนจีนสมัยก่อน รุ่นปู่ รุ่นทวด เขามาเมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบ อดมื้อกินมื้อ ค่อย ๆ สะสมรายได้ พอมีรายได้พอสำหรับจะทำกิจการอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาก็เริ่มลงมือทำกิจการนั้น สมัยโบราณเขาใช้คำว่าสู้แค่หน้าตัก ก็คือตัวเองมีเท่าไรก็ลงทุนแค่นั้น เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาเจ๊งก็เสมอตัว ไม่มีหนี้ แต่สมัยนี้ไม่ใช่อย่างนั้น สมัยนี้ใช้ระบบกู้หนี้มา เป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงาน จะว่าไปแล้วผิดหลักมากเลย ในเมื่อเป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงาน ทำแล้วได้มาก็ไม่ใช่ของเรา

โดยเฉพาะเรามองในลักษณะ ๑+๑ = ๒ เพียงอย่างเดียว เหมือนกับว่าเราทำเท่านี้ต้องได้เท่านี้ ถ้าหากทำสิบวันได้เท่านี้ ทำหนึ่งเดือนได้เท่านี้ ทำหนึ่งปีได้เท่านี้ แต่เราไม่ได้คิดว่า ถ้าไม่ได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ? นั่นเป็นการมองโลกในแง่ดีอย่างเดียว จริง ๆ แล้วไม่ว่าการทำกิจการอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเริ่มกิจการต้องคิดในแง่ที่แย่ที่สุดไว้ก่อน ว่าถ้าพลาดแล้วเราจะแก้ไขอย่างไร ? หรือถ้าเจ๊งเราจะแก้ไข จะดึงตรงไหนมาเสริม เอามาค้ำจุน ? หรือว่าจะถอยไปสู่จุดไหน? ถ้าสามารถหาคำตอบอย่างนี้ได้ ก็ทำกิจการได้ แต่ถ้าหาคำตอบตรงนี้ไม่ได้ ทำอะไรก็มีสิทธิ์เจ๊ง

เราต้องเชื่อว่าพระพุทธเจ้าท่านรู้จริง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง เพราะฉะนั้น ๑+๑ = ๒ก็ ไม่ใช่เสมอไป เพราะ ๑.๕+๐.๕ = ๒ เหมือนกัน ในเมื่อทุกอย่างไม่เที่ยง เราจะคิดว่าทำเท่านี้ต่อวันได้เท่านี้ เดือนหนึ่งได้เท่านี้ ปีหนึ่งได้เท่านี้ โดยไม่ได้คิดถึงปัจจัยเสริมที่เข้ามา พวกปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามา ทำให้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ไม่เป็นตามที่เราคิด ถึงได้บอกว่า ถ้าทำกิจการต้องคิดถึงในแง่ที่ร้ายที่สุด

ถ้าใครอ่านเพชรพระอุมา พระเอกคือรพินทร์ ไพรวัลย์ เขาจะประเมินสถานการณ์ในด้านที่ร้ายที่สุดเอาไว้ก่อน แล้วเตรียมการแก้ไข เพราะฉะนั้น..เกิดอะไรขึ้นมา ก็ไม่แย่ไปกว่าที่เขาคิดเตรียมเอาไว้ แล้วเขาจะรับมือได้ทุกอย่าง ดังนั้นว่า..ใครก็ตาม ถ้าหากว่ามีความอดทน ค่อย ๆ เริ่มไปทีละน้อย ฐานเขาจะแน่น แต่ถ้าไม่มีความอดทน หวังรวยเร็ว ต้องจับงานใหญ่ ก็ต้องกู้เงินเยอะ หลักทรัพย์ค้ำประกันก็สูง ถ้าพลาดแล้วจะไม่เหลืออะไรเลย

อย่าลืมว่าสมัยโบราณรุ่นปู่ รุ่นทวด ที่เขาบอกว่าสู้แค่หน้าตัก ต่อให้เจ๊งขนาดไหนเขาก็ยังเท่าทุน แต่สมัยนี้เป็นหนี้ตั้งแต่เริ่ม พระพุทธเจ้าบอกว่า อิณาทานํ ทุกขํ โลเก การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก เป็นโค-ตะ-ระ-ทุกข์ในโลกเลย เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่จำเป็นอย่าเป็นหนี้ใคร โดยเฉพาะสันดานอย่างพวกเราอย่าให้ใครเป็นหนี้ด้วย เพราะว่าพวกเราพอเป็นหนี้เขาก็อยากจะใช้คืน อยู่ไม่สุขหรอก หาความสุขไม่ได้...เครียด แต่พอคนอื่นมาเป็นหนี้เรา มาหยิบยืมเรา เราดันไม่กล้าทวงเขาอีก ฉะนั้น..ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลย อย่าเป็นหนี้ใครและอย่าให้ใครเป็นหนี้เรา เชื่อพระพุทธเจ้าท่านเถอะ เป็นหนี้ทุกข์ที่สุดในโลกจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2014 เมื่อ 11:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา