พระอาจารย์เล่าว่า   “ช่วงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ นี้ อาตมาป่วยหนักสองรอบ เพราะว่าบิณฑบาตแล้วเปียกฝนบ่อย ถามว่าป่วยหนักไหม..? ก็คงจะเหมือน ๆ เดิม เพียงแต่ว่าอายุมากขึ้น สภาพร่างกายทนต่อโรคน้อยลง ก็เลยเกิดอาการอย่างที่เห็น..คือหมดสภาพ 
  
โยมอุตส่าห์ไปตุ๋นยาพระกระโดดกำแพงให้ ฉันไป ๓ รอบ หลับสบายขึ้น แต่แรงจะลุกยังไม่ค่อยมี แล้วจะไปกระโดดกำแพงได้อย่างไร..? ก็เลยนึกขำ ๆ ว่ายาพระกระโดดกำแพงนี่ต้องเป็นพระหนุ่มเณรน้อย ประเภทอายุหกสิบกว่าอย่างอาตมานี่นะหรือ..? แค่ลุกจากที่นอนยังไม่ค่อยจะไหวเลย..!  
 
อาตมาเป็นคนไม่นอนเตียง จะนอนกับพื้นไปเลย เหตุเป็นเพราะว่าสมัยเด็ก ๆ ที่บ้านพ่อแม่มีลูกมากตั้ง ๑๓ คน ก็นอนเบียดกันบนเตียง แล้วคนที่ตกเตียงเป็นประจำคืออาตมาเอง ก็เลยเลิกนอนเตียง นอนกับพื้นมาจนเคย ดังนั้น..พระเถระบางท่านเข้าไปในห้องแล้วตกใจ “อะไร..อาจารย์ไม่มีเตียงเลยหรือ..!?” อาตมาต้องบอกว่า “เตียงนั้นมีเยอะ แต่ผมไม่ใช้ครับ..!” อาตมาเคยชินกับการนอนกับพื้น การนอนกับพื้นเวลาลุกต้องยันตัวมากกว่า เพราะว่าเอาขาห้อยลงมาข้างเตียงไม่ได้ พอถึงเวลาจะลุกขึ้น ออกแรงยันตัวขึ้นมายังยากเลย แล้วจะไปกระโดดกำแพงอย่างไร..?” 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2020 เมื่อ 20:09
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |