กัปปิยภัณฑ์
“...บางทีเขาเอาปล้าร้าห่อใส่บาตรให้.. กลับพอไปถึงถ้ำ ปลาร้าเป็นปลาร้าดิบและไม่มีญาติโยมสักคน ก็ต้องเอาออก ไม่ได้กิน ภาษาทางภาคนี้เขาเรียกหมากแงว (หมากไฟ) นี่ หมากแงวอย่างอยู่หน้าศาลานี่ เขาเอามาให้กินจะกินได้ยังไง อม ๆ แล้วก็คายทิ้ง เพราะไม่ได้กัปปิยะ มะไฟก็อม ๆ สักลูกสองลูกบ้าง แล้วก็ได้ทิ้งพอรำคาญนี่นะ อมเดี๋ยวมันจะลงคอไป ไม่ได้กัปปิยะก่อน ...
กัปปิยภัณฑ์ คือสิ่งจำเป็นที่จะซื้อจะหามาสำหรับพระ แต่พระตถาคตไม่อนุญาตให้พระรับเองหรือเขารับไว้ก็ดี ถ้ามีความยินดีต่อการรับเงินรับทองนั้นปรับอาบัติอีก คือไม่ให้ยินดีในเงินในทอง ให้ยินดีในกัปปิยภัณฑ์ต่างหาก กัปปิยภัณฑ์ที่เงินทองจะแลกเปลี่ยนมา.. ให้ยินดีทางโน้นต่างหาก ไม่ให้มายินดีในเงินทอง นี่เป็นข้อผ่อนผัน ...
เพียงปัจจัยเครื่องอาศัยเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ท่านให้ระมัดระวังรักษาเอาอย่างมากมาย ดังเราทั้งหลายได้เห็นแล้วในพระวินัยของพระเป็นอย่างไร ในธรรมชาติอันนี้ท่านเข้มงวดกวดขันอย่างไรบ้าง ถึงขนาดที่ต้องสละในท่ามกลางสงฆ์ เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตไว้โดยความมีข้อแม้ ให้ถือเป็นความจำเป็นเพียงกัปปิยภัณฑ์ ไม่จำเป็นในเงินในทอง อย่ายินดีในเงินในทอง ถ้ายินดีอย่างนี้แล้วปรับโทษปรับอาบัติอีก...”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2020 เมื่อ 04:41
|