อย่าลืมว่าตุ๊พ่อท่านอายุ ๘๓ ปี อาตมาเองก็ย่าง ๖๒ ปีแล้ว นับวันมีแต่จะแก่ชราลงไปทุกวัน จะอยู่ให้ลูกหลานได้เห็นหน้าไปอีกนานเท่าไรก็ไม่รู้ ? พวกเราจึงต้องทำตัวเองให้แข็งแรง ต้องเดินได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่พึ่งพาแต่ครูบาอาจารย์ ให้คอยฉุดคอยดึง คอยรั้งคอยไล่ต้อนกัน สิ่งนั้นจะทำได้ต่อเมื่อครูบาอาจารย์ท่านยังแข็งแรงพอที่จะทำ ถ้าท่านแข็งแรงไม่พอขึ้นมา แล้วเราไม่พยายามทำด้วยตัวของเราเอง ก็แปลว่าท่านทั้งหลายอาจจะไม่ได้ความดีในส่วนที่ตนต้องการ
โดยเฉพาะพวกเราส่วนหนึ่งตั้งใจว่า ขอถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก..! ถามว่าทำไมถึงอันตรายมาก ? ก็เพราะว่าบุคคลที่จะไปพระนิพพานนั้น ต้องเห็นความทุกข์อย่างชัดเจน จนจิตใจเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ถอนความยินดีในร่างกายและโลกนี้ออกไปได้ ถึงจะหลุดพ้นไปพระนิพพาน
คราวนี้ท่านตั้งใจจะไปพระนิพพาน แต่ กาย วาจา ใจ ไม่สมควรแก่การไป ท่านก็จะโดนบังคับ ในเมื่อไม่ยอมพิจารณาให้เห็นทุกข์ พ่อแม่ญาติพี่น้องข้างบนก็จะบังคับให้เราทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วยบ้าง ครอบครัวแตกแยกบ้าง ทรัพย์สินเงินทองเสียหายบ้าง จนกระทั่งบางทีเราทุกข์ เราเครียดจนอยากจะฆ่าตัวตายก็มี อันนั้นโทษท่านไม่ได้ เพราะเราตั้งใจว่าเราจะไปพระนิพพาน แต่เราไม่ยอมทำตัวเพื่อไปพระนิพพานอย่างแท้จริงเสียที
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-08-2020 เมื่อ 09:33
|