มีอยู่สมัยหนึ่ง อาตมาพยายามเล็งแล้วเล็งอีก ดูแล้วดูอีก ๓ ปีเต็ม ๆ ไม่มีอะไรที่เขาหลอกเราได้เลย มารู้ตัวตอนที่อยู่ก้นเหวพอดี..! เพราะว่าเหมือนกับพื้นดินทรุดลงทีละกระเบียดเดียว เราก็ไม่รู้หรอกว่าลงไปเรื่อย ตอนนั้นระวังตัวที่สุดเลยนะ ศีลทุกสิกขาบททบทวนอยู่เสมอ โดยเฉพาะอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่ภิกษุ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างพระพุทธเจ้าท่านล้อมคอกเอาไว้หมด เหมือนกับกั้นเขื่อน ถ้าเราละเมิดศีลแม้แต่เล็กน้อยเพียงใด ก็เหมือนกับมีรอยรั่วที่เขื่อนปล่อยให้น้ำออกไปเรื่อย เมื่อแรงดันเพิ่มขึ้นเขื่อนก็จะแตกทลายไปในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น..จึงประมาทไม่ได้เลย
เขาใช้วิธีหลอกที่นิ่มนวลมาก ชนิดที่เราพิจารณาอยู่ตลอดยังไม่รู้ตัวเลย เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ก็คือทางเรียบนี่แหละ แต่เรียบประสาอะไรก็ไม่รู้ พอรู้ตัวหันกลับไป โอ้โฮ..ก้นเหวพอดีเลย ตะกายหนีแทบไม่ทัน นั่นขนาดรู้ตัวแล้วมีกำลังใจที่จะหนีนะ แต่รู้สึกตอนนั้นว่าสาหัสจริง ๆ ประเภทกลัวจนเหงื่อหยด ทำไมเขาหลอกเราได้เก่งขนาดนั้น มาปัจจุบันจะหลอกอะไรก็รับไว้หมด มีปัญญาหลอกมาก็ทำทั้งนั้นแหละ ทำแค่ตาย..ตายแล้วก็เลิกกัน..!
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2020 เมื่อ 01:46
|