เอาดีนี่ไปพระนิพพานใช่ไหม ?
อันเนื่องมาจากกัลยาณมิตรนี้
จะลงเพียงแต่ข้อความหรือเรื่องราวที่ส่งมาให้เป็นข่าวสาร คงไม่น่าสนใจเท่าไรนัก
คราวนี้ เอาที่เกิดจากพูดคุยกันบ้างดีกว่า
____________________________________
เรื่องนี้เกิดขึ้นระหว่างชั่วโมงเร่งด่วน พักรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร
(รีบกิน รีบไปทำงานต่อ)
หนุ่มใหญ่ :
(นั่งรับประทานอาหารกลางวัน อยู่กับสาวใหญ่รุ่นยายอยู่ก่อน ยายก็รีบนั่งลงร่วมวงด้วย)
“ขอบคุณมากที่ส่งแผนที่วัดท่าซุงให้ ดูแล้ว ไกลเหมือนกันนะ”
ยายสาย :
(นึกในใจ “เขาขอมาตั้งเป็นเดือน เพิ่งจะส่งให้ตอนเขาขอซ้ำทำให้หลงดีใจว่าไปแน่ นี่รักแท้จะแพ้ระยะทางหรือเปล่า ”)
ยายเพื่อน :
“วัดนี้นี่มีอะไร ทำไมช่วงนี้มีแต่คนจะไป”
ยายสาย :
(หูผึ่ง “จะไปทำอะไรกัน ใช่ไปธุดงค์หรือเปล่า กลุ่มไหนไป”)
“ใครไปหรือ ไปบวชธุดงค์กระมัง ช่วงนี้เขาเตรียมตัวกัน”
“ถ้าหนุ่มใหญ่จะไปก็เลี่ยงวันที่ ๕ เพราะเขาจะไปสมัครบวชกันเยอะ
หรือถ้าจะไปช่วงวันที่ ๕ ถึง ๑๖ ก็จะมีกิจกรรมที่มีคนไปร่วมมาก ถ้าชอบก็ดี ถ้าไม่ชอบก็เลี่ยงวันงาน”
ยายเพื่อน :
“วัดนี้นี่ทำไม มีอะไรพิเศษหรือ”
ยายสาย :
“เป็นวัดของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นครูบาอาจารย์ที่มีคนเคารพมาก”
ยายเพื่อน :
“ที่ว่าฝึกแล้วเห็นอะไรต่ออะไร นรก สวรรค์ พูดกับพระ พูดกับเทวดาได้นี่หรือ เห็นจริงหรือ
ได้ยินเรียกว่า มโนฯ อะไรนี่แหละ มีอีกที่ที่แถวพหลโยธิน เขาไปทำอะไรกัน เห็นเขาคุยกันจัง”
ยายสาย :
(อึ้ง เอ้อ… นี่จะเลยเถิดกลายเป็นวิจารณ์เรื่องมโนมยิทธิต่อหรือเปล่า)
“ฝึกแบบเชื่อด้วยความเคารพแล้วก็เห็นได้จริง หากไม่เชื่อก็ฝึกไม่สำเร็จอยู่แล้ว
แต่ขึ้นกับเราว่าเราเชื่อเราศรัทธาวิธีของครูบาอาจารย์องค์ไหน ก็ปฏิบัติตามวิธีขององค์นั้น
พระท่านสอนตามพระพุทธเจ้า ให้เราทำดีทั้งนั้น”
ยายเพื่อน :
“ฝึกแล้วจะไม่ทำให้ยิ่งหลงไปหรือ ไปดู ไปเที่ยว ไปคุยกัน มิหลงไปกันใหญ่หรือ ”
ยายสาย :
(นั่น มีภาคสอง)
“หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ท่านก็กำชับสม่ำเสมอ สั่งสอนไปพร้อมกันให้ระวังอย่าใช้ผิดทาง
อยู่ที่คนฝึกเอง ว่าจะหลงไปหรือเปล่า จะเอาดีได้หรือเปล่า”
ยายเพื่อน :
“เอาดีนี่ไปนิพพานใช่ไหม ?”
ยายสาย :
(หูผึ่งเลย เพราะไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินสักครั้งว่ายายเพื่อนอ่านหนังสือธรรมะ ไปปฏิบัติธรรมที่ไหน
หรือแม้แต่เล่าถึงครูบาอาจารย์องค์ไหน แถมยังออกจะชอบวิจารณ์เรื่องต่าง ๆ อย่างรุนแรงบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะเรื่องความคิดคนคล้ายพวกหัวซ้าย จนยายสายไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องธรรมะด้วยซ้ำ)
“เชื่อเรื่องกรรม เรื่องภพชาติ เรื่องสวรรค์ นรก เชื่อว่ามีพระนิพพานหรือ ?”
ยายเพื่อน :
“เชื่อสิ ทำดีจะได้พ้นทุกข์จากที่เกิดมากันนี่ ไปพระนิพพานอย่างไรเล่า”
“เชื่อว่าคนทำดี ก็ต้องได้ดี ทำชั่วก็ต้องได้ชั่ว มีภพมีชาติ ผลกรรมก็ส่งแล้วแต่ชาติไหน
ใคร ๆ ก็เคยทำชั่วไว้ อย่างไรก็ต้องรับกรรม ธรรมดา หนีไม่ได้หรอก เป็นหนี้ต้องคืน
เวลานี้ก็ต้องทำดีไว้ให้มาก ๆ ไปตลอด”
ยายสาย :
(อึ้ง ทึ่ง)
“คิดเหมือนเราแต่ก่อนเลย เราเคยคิดว่าผลกรรมชั่วมันต้องชดใช้ มันมาหลบไม่ได้
เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วว่า ผ่อนผัน ยืดออกไปได้บ้าง ให้ผลกรรมดีมาส่งก่อน”
“เพิ่งคุยเรื่องนี้กับหนุ่มใหญ่ไปวันก่อน เรื่องเชื่อกรรม เรื่องภพชาตินี่”
(วันที่หลังจากคุยกัน หนุ่มใหญ่ก็อยากไปวัดท่าซุงมาก แล้วขอแผนที่ไว้)
หนุ่มใหญ่ :
“ใช่ ผมไม่เชื่อเรื่องภพชาติ นรก สวรรค์ เรื่องกรรมนี่ก็ไม่เชิง แต่ผมก็ไม่ทำชั่วนะ
เพราะคนมันควรต้องทำดี ไม่ทำชั่วอยู่แล้ว”
ยายเพื่อน :
“ลึก ๆ คุณก็เชื่อเรื่องกรรมแหละ ไม่อย่างนั้นจะคิดไม่ทำชั่วได้หรือ”
หนุ่มใหญ่ :
(เงียบ แต่ท่าทางเหมือนนึกทบทวนเรื่องที่คุยกันไปเมื่อคราวก่อน)
ยายเพื่อน :
“แล้วมโนฯนี่เขาฝึกกันไปทำอะไร”
ยายสาย :
“อ๋อ เขาไว้ฝึกพวกขี้สงสัย ไม่เห็นด้วยตัวเองก็ไม่เชื่อ วิธีนี้หลวงพ่อค้นพบว่าฝึกได้ง่ายและเร็ว”
หนุ่มใหญ่ :
“ฝึกแล้วดีไหม”
ยายสาย :
“เราไม่ตอบคุณหรอกว่าดีหรือไม่ดี คุณเคารพเชื่อครูบาอาจารย์องค์ไหนก็ทำตามนั้นก็ดีทั้งนั้น
เราเชื่อเราศรัทธา เราก็ต้องว่าดีอยู่แล้ว คุณเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ”
“แล้วกลุ่มไหน เขาคุยกันเรื่องนี้ล่ะ”
ยายเพื่อน :
(ตอบชื่อมา แต่ก็นึกไม่ออกว่ารู้จักหรือเปล่า)
หนุ่มใหญ่ :
(ทำหน้างง พลางเล่นโทรศัพท์… เครื่องที่ใช้ร่วมกับโทรศัพท์ของพนักงานที่นี่เล่นอะไรได้เยอะ รวมทั้งสั่งจ่ายเงินค่าข้าวได้ด้วย)
ยายสาย :
“ขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
พลางนึกว่า ตกลงหนุ่มใหญ่จะยังไปวัดท่าซุงอยู่ไหม และต้องหาทางคุยธรรมะกับยายเพื่อนดูสักที...
(แทนที่จะตั้งใจภาวนาต่อ ) เอาน่า ยังดีที่ได้ยินคำว่า “เอาดีแปลว่าไปพระนิพพาน”… กัลยาณมิตรนะนี่
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 23-08-2011 เมื่อ 10:21
|