งานวัดท่าซุงนั้นจะมีคนไปโดยประมาณสองแสนคน ยกเว้นมีอยู่สองครั้งเท่านั้นที่ไปเป็นจำนวนมหาศาลเลย ครั้งแรกก็คือ งานเผาศพจำลองพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ปี ๒๕๓๐
ตอนนั้นศาลา ๑๒ ไร่ ยังสร้างไม่เสร็จ ญาติโยมไปกันมากจนห้องกรรมฐานที่ให้พักไม่เพียงพอ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าโยมจะพักกันที่ไหน ปรากฏว่าโยมทั้งหลายก็ดีเหลือเกิน นอนที่ศาลา ๒ ไร่บ้าง ๔ ไร่บ้าง ตลอดจน ๑๒ ไร่ สำหรับการนอนก็คือ ซื้อหนังสือพิมพ์เก่า ๆ เอามาปูนอน ปรากฏว่าหนังสือพิมพ์เก่าที่เขาขายกันกิโลละ ๖ สลึง ซึ่งกิโลหนึ่งมันมีหลายฉบับ มันเอามาขายฉบับละ ๓ - ๕ บาท แล้วคนก็ซื้อกันจนไม่เหลือด้วย แต่ว่าหลังงานเสร็จสิ้นแล้ว พวกอาตมาต้องขนกระดาษหนังสือพิมพ์หลายคันรถไปเผา เพราะว่าโยมไม่ได้เก็บกลับบ้านไปด้วย
งานที่สองนั้น...วันเสาร์เป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร วันอาทิตย์เป็นงานประจำปีของเดือนมีนาคม งานสองวันติดกัน อาตมาบอกไม่ถูกว่าคนมากเท่าไร รู้อยู่อย่างเดียวว่าถ้าเป่ายันต์แล้วคนจะน้อยลง แต่นี่เป่าไปสองรอบ คนมันมีแต่เยอะขึ้นเพราะเขาไม่ยอมไปไหน จะรออยู่งานประจำปี
งานนั้นมีสิ่งที่วัดได้สองอย่างก็คือ จำนวนคนนอกจากจะมากแล้ว ยังสาหัสด้วย อย่างแรกคือ ทหาร ตำรวจ
"หลวงพี่ครับ ขอกระทิงสองลัง"
"ก็เอาสิ ไปยกเอาที่ร้านป้ากิมกี"
ปรากฏว่าพอผ่านไปหนึ่งคืน รุ่งเช้ามาอีกแล้ว
"หลวงพี่ครับขออีกสองลัง" อย่างนั้นวัดได้อย่างหนึ่งว่าเขาไม่พอแบ่งกันกิน
ส่วนอีกอย่างหนึ่งคือตัวอาตมาเอง ช่วงนั้นยืนจำหน่ายวัตถุมงคล ๒ วันกับ ๑ คืน จนขามันบวม แต่ว่าคุ้มค่ามากเพราะการจำหน่ายวัตถุมงคลนั้น ทำเอาเจ้าหน้าที่ธนาคาร ๘ คน นับเงินไม่ทัน
เราจะเห็นว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อบารมีท่านมหาศาล อาตมาธุดงค์ไปตามป่าตามเขาขนาดไหนก็ตาม บารมีหลวงพ่อตามคุ้มครองได้หมด ไปต่างประเทศอย่างพม่าก็ดี ท่านตามไปคุ้มครองรักษาได้ตลอด
ไปเจอสำนักสงฆ์เล็ก ๆ อยู่ในป่าลึกของภาคเหนือ พอกราบท่านเสร็จ ก็คุยกันไปคุยกันมา บอกท่านว่าศึกษามาในด้านมโนมยิทธิตามแบบหลวงพ่อวัดท่าซุง พอได้ยินดังนั้น พระท่านก็วิ่งพรวดเข้าไปที่กุฏิ เราก็สงสัยว่าท่านไปทำอะไร พอท่านออกมา ปรากฏว่ามีหนังสือหลวงปู่ปานอยู่ ๑ เล่ม ห่อปกมาอย่างดีเลย เขียนไว้ข้างหน้าปกว่า ประวัติหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค โดยฤๅษีลิงดำ อาตมาก็นึกในใจว่า "เออ..หนอ ขนาดอยู่กลางป่า กลางดงลึกขนาดนี้ หลวงพ่อยังมาก่อนเราอีก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2009 เมื่อ 02:52
|