เมื่อท่านบอกว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วและกลับเข้าสู่เถรอาสน์ อาตมภาพก็น้อมกราบในพระมหากรุณาธิคุณของทุกท่าน แล้วลืมตาขึ้นมาทำน้ำมนต์
จำได้ว่าเริ่มต้นประมาณเก้าโมงเช้า ลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา เห็นว่าอีกสิบนาทีจะเพล นาน ๆ จะเจออะไรยาว ๆ แบบนี้สักที
แล้วอย่าคิดว่าครั้งต่อไปจะเป็นแบบนี้อีกนะ บางอย่างก็เหมือนเดิม บางอย่างก็เปลี่ยนไป แล้วแต่ท่านจะเมตตาสงเคราะห์
จัดการพรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา รอจนหลวงพ่อใจ และปลัดเอกลักษณ์ พรมน้ำมนต์เสร็จแล้ว อาตมาก็อธิษฐานจิตดับเทียนสัตตบริภัณฑ์รอบพิธี
รับไทยธรรมจาก ดร.พระครูโรจน์ ญาติโยมที่เป็นเจ้าภาพถวายตะกรุดมหาโสฬสทองคำ ๑ ดอก ตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดินทองคำ ๑ ดอก ตะกรุดคู่ชีวิตและตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดินเนื้ออื่นอีกหลายถุง
"ตะกรุดทองคำผมขอราคาต่ำสุดที่ ๒๕,๐๐๐ บาทนะครับ คราวที่แล้วหลวงพ่อออกเนื้อทองคำไป ๓,๐๐๐ บาท ผมเสียดายใจจะขาด เพราะว่าจองไม่ทัน"
ดร.พระครูโรจน์ขอร้องแกมบังคับ
ฉันเพลแล้วกราบลาทุกท่าน เดินทางกลับวัดท่าขนุน ปกติขึ้นรถได้อาตมาก็พักผ่อน แต่วันนี้เจอพลังงานล้นเกิน จึงนั่งส่งงานทางไลน์ให้กับทีมงานวัดท่าขนุน นำลงในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ
ทั้งของทางราชการและส่วนตัว แล้วเข้าไปติดตามงานจากผู้บังคับบัญชา จนไปถึงวัดท่าขนุนแบบไม่รู้ตัว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-05-2020 เมื่อ 13:28
|