"ประการแรก...ตั้งแต่สมัยดูแลศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ที่วัดท่าซุง ช่วงนั้นมีลูกมืออยู่ ๒ ท่าน คือ พระสมปอง สุธมฺมสนฺตจิตโต และ พระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล เมื่อเลิกงานทั้ง ๓ รูปก็ช่วยกันโกยเงินเหรียญออกจากตู้ทำบุญ แล้วแยกออกเป็นถัง ๆ ว่าแต่ละตู้ทำบุญรายการอะไรบ้าง จากนั้นก็เริ่มลงมือนับกัน เพื่อที่จะได้นำส่งให้คุณครูนนทา อนันตวงษ์ โดยเร็วที่สุด
ท่านสมปองและท่านชาติชาย นับได้ ๒ ถุง ถุงละร้อยเหรียญก็วางมือ บอกว่ามีธุระ แล้วขอตัวหายไปเลย ส่วนอาตมามีนิสัยดังในพระบาลีที่ว่า อนากุลา จ กมฺมนฺตา การทำงานต้องไม่คั่งค้างถึงจะเป็นมงคล จึงต้องนั่งนับเหรียญไปคนเดียว
สรุปว่าวันนั้นนับเหรียญไปจนถึงตีสองกว่าถึงจะเสร็จเรียบร้อย บรรจุลงกระสอบใส่เงินของธนาคาร กระสอบละ ๔,๐๐๐ เหรียญ เป็นจำนวนถึง ๓๗๐ กว่ากระสอบ รู้สึกปวดเหมือนหลังแทบจะขาด..!
ตั้งแต่นั้นมาก็เข็ดกับเงิน ใจหมดอยากในตัวเงินโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมากจะน้อยเท่าไรก็ไม่เอาอีกแล้ว เห็นทุกข์เห็นโทษของการมีเงินจริง ๆ ต้องบอกว่าบรรลุนิพพิทาญาณพร้อมด้วยสังขารุเปกขาญาณระดับสูงสุด จากการนับเงินครั้งนั้นนั่นเอง..! "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2020 เมื่อ 20:23
|