ดูแบบคำตอบเดียว
  #106  
เก่า 17-03-2020, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,745
ได้ให้อนุโมทนา: 152,166
ได้รับอนุโมทนา 4,420,204 ครั้ง ใน 34,335 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในสมัยพุทธกาล ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้านี่จะปวดหัวเป็นพิเศษ เพราะว่านักบวชสารพัดลัทธิ พอถึงเวลาเลื่อมใสก็ขอบวชในพระพุทธศาสนา แต่บางท่านก็ติดความเคยชินเก่า ๆ มา ถ้าไม่ใช่เป็นพระอริยเจ้าไปเลย บางทีก็ทำตัวตามแบบของตัวเอง เพราะคิดว่าทำได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระพุทธศาสนามา ๒๐ ปี จึงค่อยมีการละเมิดศีล แล้วท่านค่อยบัญญัติข้อห้ามขึ้นมา

ปฐมอาบัติปาราชิกที่พระสุทินนกลันทบุตรล่วงนั่นคือ ๒๐ ปีไปแล้วนะ เพราะว่ายุคแรก ๆ มีแต่พระอรหันต์ มีแต่พระอริยเจ้า ทั้งพระทั้งฆราวาสเยอะมาก ทุกคนรู้โดยอัตโนมัติว่าต้องประพฤติปฏิบัติ กาย วาจา ใจ อย่างไร พระพุทธเจ้าจึงไม่ต้องบัญญัติศีล

ปรากฏว่า ๒๐ ปีผ่านไป เริ่มมีความด่างพร้อยเกิดขึ้น ปะฐะมัง ปาราชิกัง กัตถะ ปัญญัตตันติ ถามว่าปฐมอาบัติปาราชิกบัญญัติขึ้นที่ไหน ? เวสาลิยัง ปัญญัตตันติ บัญญัติขึ้นที่เมืองเวสาลี กัง อารัพภาติ ด้วยปรารภเรื่องอะไร ? สุทินนัง กะลันทะปุตตัง อารัพภาติ ปรารภเรื่องของพระสุทินนกลันทบุตร ปุราณะทุติยิกายะ เมถุนัง ธัมมัง เสพเมถุนกับภรรยาเก่า ปุราณะ โบราณหรือเก่า ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2020 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา