ดูแบบคำตอบเดียว
  #92  
เก่า 18-02-2020, 09:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,688
ได้ให้อนุโมทนา: 152,000
ได้รับอนุโมทนา 4,417,750 ครั้ง ใน 34,278 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง หลวงน้ามีชัย สุนฺทโร ขยันสวดมนต์ไหว้พระมาก นอกจากทำวัตรเช้าเย็นตามปกติแล้ว พอกลับถึงกุฏิท่านยังสวดมนต์ต่อเป็นชั่วโมง ๆ ส่วนอาตมาไม่ค่อยได้สวดมนต์ เพราะเอาแต่ภาวนา หลวงน้าท่านหวังดีท่านก็มาเตือน บอกว่าให้สวดมนต์มาก ๆ สิ่งที่เราทำไว้ ถึงเวลาญาติโยมเขาเห็นเราเป็นเนื้อนาบุญ เท่ากับว่าเขามากอบโกยเอาความดีที่เราทำไป ถ้าเราทำเอาไว้น้อย เจอโยมเขาโกยแค่ไม่กี่ทีก็หมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นแล้วเราจะขาดทุน

จะว่าไปแล้วหลักการของท่านก็ดี ก็คือสำนึกในความเป็นพระภิกษุสามเณรของตนว่าเป็นเนื้อนาบุญ แต่อาตมาถือหลักที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกไว้ ก็คือสวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน ท่านบอกว่ายาทานั้นหายจากโรคช้า ต้องยากินถึงจะหายเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของการภาวนานั้น ท้ายสุดต้องพิจารณาด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วกำลังในการภาวนาของเราไม่มีที่ไป ก็จะเอาไปฟุ้งซ่านแทน

แต่แม้ว่าท่านจะดูเคร่งครัด ท้ายสุดก็อยู่ไม่ได้ ต้องสึกหาลาเพศไป ส่วนคนที่ไม่เคร่งครัดอย่างอาตมา เพราะว่าเอาแต่ภาวนาไม่ค่อยจะสวดมนต์ ก็ยังอยู่มาจนวันนี้ ความจริงยังคิดถึงท่านอยู่ เพราะว่าตอนที่ท่านสึก ท่านอายุ ๗๒ ปีแล้ว ถ้าหากว่าถึงวันนี้ก็อายุ ๑๐๐ ปีพอดี ท่านเป็นคนแข็งแรง ร่างกายสูงใหญ่ สง่า ถึงอายุ ๗๒ ปีก็ยังดูเหมือนกับหนุ่ม ๆ เลย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2020 เมื่อ 18:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา