| 
				  
 
			
			ถาม :  หลวงพี่ครับ เพื่อนเขาไปต้องคุณไสยมาตอบ :  ปีหน้า  ๒๐  มีนาคม  งานเป่ายันต์เกราะเพชร  ลากเขาไปก็แล้วกัน
 
 ถาม : กลัวมันจะตายเสียก่อน
 ตอบ : บอกให้อึด ๆ ไว้หน่อย  อีกไม่กี่เดือน
 
 ถาม : เขาอาเจียนออกมาเป็นเส้นผม  เป็นโครงกระดูก
 ตอบ : แสดงว่าคนเขารักมาก ให้มาเยอะ
 
 ถาม : ลากไปวัดท่าขนุนได้ไหมครับ
 ตอบ :  ไม่มีประโยชน์   ถ้าหากไม่ใช่วาระจริง ๆ  อาตมาไม่แตะเรื่องพวกนี้หรอก ขี้เกียจเดือดร้อน   เพราะพวกไสยศาสตร์มันเร็วมากเลย  มันจะรู้ว่าใครช่วย แล้วมันจะเล่นคนนั้นแทน  อาตมารบกับมันจนต้องแกล้งตายมาหลายรอบแล้ว
 
 ถาม : อย่างนี้พวกที่ปล่อยของมาเขาก็มีทิพจักขุญาณสิคะ เพราะเขารู้ว่าใครช่วยแก้คุณไสยให้
 ตอบ : มันให้ผีบอก  ถึงเวลาผีมันก็ไปสำรวจว่าเป็นใคร แล้วมันก็บอกเจ้านาย
 
 ถาม : เทวดาปกปักเราไม่ได้หรือคะ
 ตอบ :  มันขึ้นอยู่กับวาระกรรม ถ้าวาระมันเปิดก็ซวย  อาตมาเองโดนมาซะหลายยก จนต้องแกล้งตาย   แกล้งตายคือไม่ตอบโต้ มาเท่าไหร่เงียบอย่างเดียว จนเขาคิดว่าไม่รอดแล้ว  เขาก็เลิก
 
 ถาม :  แปลว่ารับไว้
 ตอบ : โดนจนเข็ด  มาเท่าไหร่ก็กางกระสอบรับ
 
 ถาม : แบบนี้ได้ตะปูไปเยอะ
 ตอบ : ไม่ค่อยพอ ส่วนใหญ่เต็มที่สองกิโลก็หมดแล้ว   ตะปูสองกิโลนี่มันรื้อเมรุหลายเมรุเลยนะ   เพราะว่าเขาจะต้องเอาเมรุที่เป็นเมรุเก่า พวกที่ทำด้วยไม้ ตอนเผาศพมันจะมีควันจากไอศพขึ้นไป   พวกนั้นมันจะสื่อวิญญาณได้ง่าย  แล้วก็จะเอามาทำไสยศาสตร์ มันไม่ใช่ประเภททำมั่ว ๆ  แล้วโลงสมัยนี้มันก็ตอกตะปูได้น้อยมาก  เพราะเอาไว้เผาอย่างเดียว   จะเอาตะปูตอกโลงผี  โลงหนึ่งก็มีแค่  ๔ ตัว หรือ ๖  ตัวเท่านั้น  ไสยศาสตร์มันหากินอัตคัดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะวัตถุดิบมันหมด
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-11-2009 เมื่อ 02:14
 |