แต่คราวนี้บางอย่างที่พรรคอนาคตใหม่เสนอมา อย่างเช่นขอให้พวกตุ๊ดพวกแต๋วบวชได้ อันนี้ยังไม่ใช่ในความรู้สึกของคนทั่ว ๆ ไป แล้วบางคนก็ไปไกลเลย บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยห้ามตุ๊ดห้ามแต๋วบวช ห้ามเฉพาะบัณเฑาะก์ มึงจะบ้า...! สมัยนั้นมีคำนี้ไหม ? เราต้องเข้าใจบริบทสมัยพุทธกาลด้วย
ในส่วนที่เขาเสนอมา อาตมาไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด แต่อาตมาทำเลย ก็คือตัวเองเป็นพระอุปัชฌาย์ คุณจะมาครึ่งหญิงครึ่งชายอย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเก็บอาการได้คุณก็บวชได้ แต่ถ้าเก็บอาการไม่ได้คุณต้องสึก เพราะว่าผิดแปลกจากสังคมของความเป็นพระ ฉะนั้น..ในส่วนนี้บางทีถ้าคุณไปวัดท่าขนุน อาจจะเจอพระบางรูปท่านเรียบร้อยผิดปกติ ก็ให้รู้ว่าเป็นประเภทนี้แหละ..!
พวกเราก็ไม่ได้ไปตราหน้าท่านว่าพระตุ๊ดพระแต๋วอะไร แต่เราเรียกท่านว่า "พระเรียบร้อย" จริง ๆ ก็คืออย่างเดียวกัน เพียงแต่ว่าที่ทำเพราะว่าพระอุปัชฌาย์ โดยศัพท์แล้วแปลว่า ผู้เพ่งดู ในเมื่อพินิจพิจารณาดูแล้วว่าสมควร จึงได้เอ่ยรับว่า “ปฏิรูปัง” แปลว่า สมควรแล้ว คำต่อมาคือ “โอปายิกัง” จงรักษาสัมมาปฏิบัติโดยอุบายอันชอบ แปลว่าทำให้ถูกต้องตามระเบียบ ตามวินัย ตามกฎเกณฑ์ของสถานที่ ถ้าคุณทำอย่างนี้แล้วสามารถรักษาสถานภาพได้..คุณบวชได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2019 เมื่อ 20:45
|