"ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์มาเจอเด็ก ๆ ๔ คน หน้าตาคุ้น ๆ ปรากฏว่าเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยาที่วัดท่าซุง เขาได้ทุนไปเรียนที่ประเทศจีน ก่อนที่จะไปก็มาลาอาตมาที่นี่ ก็ยังบอกกับเขาว่า เดี๋ยวมีเวลาหลวงตาจะไปเยี่ยม ปรากฏว่าไม่กี่วันหลวงตาไปเยี่ยมเสียแล้ว ...(หัวเราะ)...
เด็ก ๆ เขาเอาของมาฝากหลวงตา มีแต่ของกิน ของที่เอามาฝากนี่ประมาณว่า ถ้าหลวงตาหลงอยู่ในเฉิงตูสักอาทิตย์หนึ่งก็อยู่ได้..! พยายามจัดใส่กระเป๋าที่ยังมีช่องว่างอยู่เยอะแยะ ใส่ไปใส่มาท้ายสุดต้องเอาบะหมี่กระป๋องคืนไปกระป๋องหนึ่ง ก็คือบะหมี่ชื่อว่ากระป๋อง แต่อาตมาอยากจะเรียกว่าบะหมี่ถัง เพราะว่ากระป๋องใหญ่มาก ...(หัวเราะ)... บอกเขาว่าเอากลับไปกินเอง หลวงตาเอาลงกระเป๋าไม่ได้
พอเช็คอินได้ตั๋วมาแล้วก็ไปรอที่ประตูหมายเลข ๑๐๓ จีนเขาสร้างสาธารณูปโภคทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟ เครื่องบิน เขาเผื่ออีก ๒๐ ปีข้างหน้า ดังนั้น..สนามบินเขาเลยใหญ่มาก คาดว่าส่วนประตูที่ไม่เกินหมายเลข ๑๐๐ จะเป็นส่วนของผู้โดยสารในประเทศ พอไปถึงประตูรอขึ้นเครื่อง ทุกคนวางของ แล้วก็ซาวด์เสียงกันว่าใครจะเฝ้า ที่เหลือจะได้ไปช็อปปิ้ง สรุปว่าอาตมาก็จะไปเดินดูของเหมือนกัน ไม่ได้ซื้อหรอก แต่ไปดูเสียหน่อย ท้ายสุดทิดดอยเลยต้องเป็นผู้เสียสละเฝ้ากระเป๋า"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|