ถาม : ถามว่าจำเป็นไหมที่เวลาจับภาพกสิณเราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนที่มีสติอยู่ตลอดเวลา
ตอบ : มันไม่จำเป็นต้องถึงขนาดมีสติอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากว่ากสิณมันเริ่มทรงตัวแล้ว เราแบ่งความรู้สึกไว้ส่วนหนึ่ง ความรู้สึกส่วนนั้นมันจะเกาะอยู่ตลอดเวลา
ถาม : หนูมาสังเกตช่วงเวลาที่เราขาดสติช่วงนั้นไป มันก็สามารถจะจำอารมณ์ตัวนั้นกลับมาทำใหม่ได้
ตอบ : ทำได้ แต่ถ้าหากว่าไม่ถนัดหรือชำนาญมันจะหายไปเลย ต้องมาเริ่มต้นใหม่
ถาม : เราแค่จำอารมณ์ฌานนั้นที่กสิณมันทรงตัว เราก็ทำได้แล้ว
ตอบ : แล้วเราก็ล็อกเป้า
ถาม : บางทีเราทำกสิณยังไม่ได้ถึงจุดที่ทำให้มันเกิดฤทธิ์ แต่ว่ามันก็เกิดไปมีตัวอรูปฌานแล้ว
ตอบ : ของเก่า...ของเก่า เก่าล้วน ๆ ไม่มีใหม่เลย
ถาม : หนูมาสังเกตที่หลวงพ่อสอนตัวทิพโสต ทีนี้เวลาเราจับภาพกสิณเพื่อฝึกทิพโสต เราสามารถพลิกวิธี
ตอบ : ก็ขยายวงไป ที่เคยสอนเอาไว้มีครบทุกอย่างแหละ ตั้งแต่การสอนภาวนาแรก ๆ จนกระทั่งกรรมฐาน ๔๐ ถ้าคนสังเกตจะเห็นว่าบทแรก ๆ มันยำใหญ่เกือบทั้ง ๔๐ กองเลย เหลือแต่เราเอาไปพลิกแพลงใช้
อาตมาไม่ใช่คนเก่ง ครูบาอาจารย์ท่านทำได้ทุกคน แต่ขี้เกียจมาอธิบาย ท่านก็บอกไปเรื่อยเปื่อย มันอยู่ที่ว่าเราจะเฉลียวใจคิดหรือเปล่า
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-11-2009 เมื่อ 11:56
|