เล่าถึงการเดินทางไปประเทศจีนต่อ "วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๒ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันเสาร์ ตื่นเช้าขึ้นมาออกจากห้องพัก ปรากฏว่าหิมะยังเต็มลานอยู่เลย ยังไม่ละลาย อากาศลบ ๔ องศา ทำอย่างไรได้..อาตมาเป็นคนอยู่นิ่งไม่เป็น จึงไปเดินดูบ้านดูเมืองเขา หนาวก็หนาว ถึงหนาวก็จะดู
พวกศิลปะของเขาก็หลักการเดียวกับพระพุทธศาสนาของเรา เพียงแต่ว่าเขานิยมพวกเงื่อนไร้ที่สุด เงื่อนไร้ที่สุดก็ประเภทคล้าย ๆ กับสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน พันกันไปพันกันมา ไม่มีหัวไม่มีท้าย วนไปได้เรื่อย ๆ ไม่รู้จักสุด เล็กสุดที่เจอก็รู้สึกว่า ๕ เงื่อน ส่วนใหญ่สุด ๑๐๘ เงื่อน
มีเงื่อนไร้ที่สุด มีหม้อน้ำมนต์ มีหอยสังข์ มีธรรมจักร มีดอกบัว มีฉัตร ฉัตรนี่รู้สึกว่าที่ไหน ๆ ก็ถือว่าเป็นของสูงเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่เขาก็ทำไว้ตามประตู ตามหน้าต่าง พวกบรรดาประตู ถ้าเป็นทิเบตแท้ก็มักจะมีคชสีห์อยู่ เขาเอาไว้ป้องกันพวกเสนียดจัญไร พวกของไม่ดีที่จะเข้ามา เพราะว่าคชสีห์เป็นสัตว์ดุร้าย เอาไว้ข่มพวกของอาถรรพ์นี้ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2019 เมื่อ 01:08
|