พระพุทธเจ้าทรงเป็นอัจฉริยะมนุษย์สุดประเสริฐ มีพระปัญญาคุณอันอันล้ำเลิศ สามารถตรัสรู้พบเห็นอริยสัจที่ไม่มีใครพบเห็นได้
พระองค์มีพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ ทรงตรากตรำพระวรกายสั่งสอนสัตว์โลกอยู่ ๔๕ ปีเต็ม ๆ
๔๕ ปีที่พระองค์ท่าน อดตาหลับขับตานอนสอนพวกเรา เนื่องจากเพราะเห็นว่าพวกเราโปรดได้สงเคราะห์ได้
ในแต่ละคืน พระองค์ท่านจะได้บรรทมสักชั่วโมง สองชั่วโมงก็แสนยาก ในบาลีกล่าวถึง พุทธกิจ ๕ ประการ ไว้ว่า
ปุพพัณเห ปิณฑปาตัญ จะ เช้าขึ้นมาเสด็จออกบิณฑบาต พระองค์ท่านเสด็จบิณฑบาตตลอดพระชนม์ชีพ
สายัณเห ธัมมเทสนัง ตอนบ่ายทรงเทศน์โปรดสั่งสอนประชาชน
ปโทเส ภิกขุโอวาทัง ค่ำลงมาให้โอวาทสั่งสอนพระภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี และสิกขมานาทั้งหลาย
อัฒฑรัตเต เทวปัญหะนัง เที่ยงคืนไปแล้วแก้ปัญหาให้กับเทวดา พรหม ที่เขาสงสัย หรือเทศน์โปรด เทวดา พรหม ที่มาขอฟังธรรม
ปัจจุเสว คเตกาเล ภัพพาภัพเพ วิโลกะนัง พอใกล้รุ่ง อย่างเช่นตอนนี้ เวลานี้ พระองค์ท่านก็จะสอดส่อง ตรวจดูอุปนิสัยสัตว์โลก
ว่าสมควรจะเสด็จไปโปรดผู้ใด สรุปแล้วลองคิดง่าย ๆ ดูว่า พระองค์ท่านมีเวลาบรรทม คือนอนอย่างพวกเราคืนหนึ่งกี่ชั่วโมง
พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายลักษณะนี้ ๔๕ ปีเต็ม ๆ ด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่
เพื่อสงเคราะห์พวกเรา เห็นว่าพวกเราสอนได้ มีโอกาสที่จะทำเพื่อความหลุดพ้นได้ พระองค์ท่านทุ่มเทชีวิต จนกระทั่งวาระสุดท้ายก็เพื่อพวกเรา และขณะนี้พระองค์ท่าน เสด็จอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้าของเรา พร้อมที่จะสนับสนุนความดีในทุก ๆ ด้านของเรา พร้อมที่จะรับเราไปสู่
"พระนิพพาน"
|