| 
				  
 
			
			ในขณะที่กำลังพูดคุยถึงเรื่องงานกฐินตุ๊ป้อ  ที่หลวงพ่อเล็กขึ้นไปนั่งบนเสลี่ยง 
 หลวงพ่อท่านก็กล่าวว่า "เรื่องของการที่เขาจัดให้มีขบวนแห่   มีเสลี่ยงให้นั่ง  มันก็ลักษณะเดียวกัน  นั่นมันเป็นลักษณะของยศ   ก็คือ ยกให้เราเป็นใหญ่   ก็สำคัญว่าเราต้องระวังรักษาใจ
 
 แต่พอนั่งบนนั้นแล้วมันเห็นภาพซ้อน...ซ้อนแล้วซ้อนอีก นับชาติไม่ถ้วน  ตอนแรกที่นั่งก็กลัวเหมือนกัน  กลัวว่ามันจะเมาหรือเปล่า  กลัวจะเมาลม  เพราะคนที่หามมันเดินไม่เสมอกัน  แต่ปรากฏว่าพอนั่งไปปุ๊บ  ความคุ้นเคยเก่า ๆ มันมาหมดเลย  มันกลายเป็นว่าสามารถนั่งได้สบาย ๆ   แล้วมันก็เห็นภาพ  มีทั้งขณะที่เดินทางเข้ารั้วเข้าวังเพื่อไปรายงานข้อราชการ   มีทั้งออกตรวจคนเตรียมพร้อมรบ    มีทั้งกำลังเลียบพระนคร   แต่ละชาติมันมีทั้งที่เป็นใหญ่   มีทั้งที่เป็นแม่ทัพนายกอง    แม้กระทั่งเข้าไปนั่งในศาลาแล้ว  มันก็ยังรู้สึกว่านั่งอยู่ใต้มหาเศวตฉัตร
 
 มันก็เลยเกิดความสลดใจว่า  ชาติแล้วชาติเล่ามันก็เป็นอย่างนี้  แล้วท้ายสุดมันก็ไม่สามารถที่จะพ้นทุกข์ได้    มันก็เหลือเพียงแต่ว่าชาตินี้เราจะดิ้นรนให้พ้นจากทุกข์ได้จริงหรือเปล่า   โดยเฉพาะเรื่องของลาภ  ยศ  สรรเสริญ  สุข  มันเป็นของที่เชื่อไม่ได้   ถ้าวันไหนคนเขายังยกย่องสนับสนุนอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังคงอยู่   วันไหนที่เขาเลิกสนับสนุนเมื่อไหร่มันก็จะสูญสลายไป    มันก็จะกลายเป็นเสื่อมลาภ  เสื่อมยศ  นินทา  ทุกข์  สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นธรรมดาของโลก  เรียกว่าโลกธรรม  ธรรมดาของโลกมันต้องมีอย่างนี้   คราวนี้เมื่อมันเกิดกับเราขึ้นมาแล้ว   เราเองมีการหวั่นไหวตามหรือว่าสามารถที่จะปล่อยได้วางได้
 
 แต่ว่ามันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ชัดที่สุดก็คือว่า  มันรู้ว่าภาระใหญ่มา   ก็คือยิ่งเราโดนยกเข้าไปสู่ที่สูงมากเท่าไหร่   ภาระการงานที่เราต้องรับผิดชอบมันก็ต้องมากเป็นเงาตามตัว   เห็นแล้วมันสยอง  รู้ตัวว่างานมา"
 
 ถาม :  เขายกในงานกฐินหรือคะ
 ตอบ :  ใช่  มันมองเห็นยาวเลย   ถ้าวาระของบุญของกรรมมันมาถึง  อย่างไรก็เลี่ยงไม่ได้  เรารับ ๆ ไปเถอะ เพียงแต่ว่าอย่าเก็บมาเป็นกังวล  ทำได้เต็มที่แค่ไหน  เอาแค่นั้น  อย่าลืมว่าเต็มที่คือดีที่สุด   ทำได้ดีที่สุดแค่ไหนเอาแค่นั้น  ไม่ไปกังวลว่ามันต้องเสร็จไปทุกเรื่อง  ลักษณะเดียวกับไม่ได้ไปหนักใจว่าจะต้องทำ เพราะเราอาจจะตายลงไปตอนนี้ก็ได้
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 25-08-2015 เมื่อ 17:30
 |