[โอรส]

ถาม : ช่วงนี้ดวงตนเองตก เกิดอุบัติเหตุเจ้าค่ะ พอดีไปทำบุญถวายโลงศพก่อน แทนที่รถคันใหญ่จะวิ่งมาชนตรงคนขับ ก็กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้ามา แล้วหลังจากนั้นก็ป่วยหนักจนกระทั่งลุกไม่ขึ้นต่อเนื่อง แล้วพอดีก็เกิดเหตุกับที่ทำงานอีก สงสัยว่าอันนี้หรือเปล่าที่เราทำบุญแล้วลดความรุนแรงลง
ตอบ : ลดลงเยอะเลย เพราะว่าไม่อย่างนั้นแล้วอาจเจอคันใหญ่แทน ซึ่งถ้าสวัสดีมีชัยจริง ๆ โลงที่เราบริจาคก็ได้นอนเอง แต่บังเอิญว่าสิ่งที่เราทำเป็นบุญใหญ่ โดยเฉพาะการบริจาคโลงศพนี่เป็นตัวมรณานุสติ

เรารู้อยู่แล้วว่าเราบริจาคไปเพื่อให้คนตาย ถ้าหากว่าเรามีปัญญาคิดต่อนิดหนึ่ง ตัวเราก็ตายเหมือนกัน คนรอบข้างก็ตายเหมือนกัน ถ้าขึ้นชื่อว่าเราเกิดมาแล้วไม่อาจเลี่ยงจากความตายนี้พ้น เกิดมากี่ชาติก็เป็นอย่างนี้ เรายังอยากเกิดอีกไหม ? เป็นมรณานุสติ เป็นกรรมฐานที่ใหญ่มาก ในเมื่อเป็นกรรมฐานที่ใหญ่มาก บุญก็สูง ถึงอกุศลกรรมจะแรงมาก แต่กำลังบุญก็เหนือกว่า ทำให้สามารถหลบเลี่ยงจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหายไปได้ เพราะฉะนั้น..แทนที่จะเป็นรถสิบล้อก็แค่มอเตอร์ไซค์จ้ะ

ถาม : ทำอย่างไรจะไม่ให้มีเคราะห์เกิดขึ้นคะ ?
ตอบ : ไม่ให้เกิดขึ้นเลยก็อย่าเกิดจ้ะ ถ้าเกิดเมื่อไรโดนแน่ ๆ เมื่อครู่ตอบไปแล้ว พวกเราไม่ได้เจตนาฟังหรือไม่ก็ความสนใจกระโดดข้ามไป ก็คือว่า เราทำบุญให้ต่อเนื่องไว้ ในเมื่อเราทำบุญต่อเนื่องอยู่ ตัวกรรมก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาแทรกได้ แต่ของเราส่วนใหญ่ไม่ได้ทำบุญต่อเนื่อง เราทำในลักษณะที่ ทำ ๆ เว้น ๆ

บุญตัวที่ใหญ่ที่สุดก็คือบุญจากการภาวนา ถ้ากำลังใจของเรามั่นคง ตัวเคราะห์กรรมกินเราได้น้อยมาก แต่ส่วนใหญ่เราภาวนาบ้าง ด่าชาวบ้านเขาบ้าง ความดีไม่ต่อเนื่องกัน ก็เลยเปิดโอกาสให้เคราะห์แทรกได้ เรื่องของทาน - ศีล - ภาวนา จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องกัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาอย่างพระวัดเกาะพระฤๅษี บางวาระก็ต้องกินกันแทบตายเลย อาหารล้นเหลือ ขณะเดียวกันอาทิตย์ต่อมาก็ว่าบะหมี่สำเร็จรูปไปเจ็ดวันซ้อน อย่างนั้นทำบุญไม่สม่ำเสมอจ้ะ ไม่ต้องไปโทษใครหรอก

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔