"อย่างในปัจจจุบันของเรา คนขาดความเกรงกลัวในธรรมชาติ ทำลายธรรมชาติแบบไม่บันยะบันยัง ทำให้สมดุลธรรมชาติเสีย ฤดูกาลต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไปตามปกติ เราก็จะเห็นได้ว่าโบราณเก่งกว่า คือให้เราเคารพธรรมชาติ ถึงเวลารู้สำนึกในบุญคุณ ก็มีการตอบแทนด้วยการกราบไหว้บูชา เราจะบอกว่าเหลวไหลก็ไม่ใช่ เพราะว่าอย่างน้อยในเรื่องของเทพธิดาฉางเอ๋อก็ยังเป็นเทวตานุสติ การระลึกถึงเทวดา
เพียงแต่ว่าการระลึกถึงเทวดาของเขา เป็นการระลึกถึงในลักษณะของผู้น้อยที่มีต่อผู้ใหญ่ เป็นการระลึกถึงในลักษณะของการพึ่งพา ซึ่งความจริงเทวตานุสติของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ท่านสอนให้เราปฏิบัติตนให้เป็นเทวดา ก็คือศักยภาพของมนุษย์ทุกคนสามารถเป็นเทวดาได้ เป็นพรหมได้ เป็นพระวิสุทธิเทพได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านก็เลยสอนหลักธรรมที่ให้เราปฏิบัติแล้วเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า หรือว่าเป็นพระวิสุทธิเทพก็คือพระอรหันต์เข้าสู่พระนิพพาน
ในเมื่อเรามีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมเอง มีศักยภาพในการที่จะเป็นเทวดาเป็นพรหมเอง เราก็ปฏิบัติตัวของเราให้เป็น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปพึ่งพาใคร เพราะว่าเราเป็นเองไปแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2019 เมื่อ 03:26
|