ดูแบบคำตอบเดียว
  #106  
เก่า 27-08-2019, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,406 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเมื่อขอไป พระเจ้าพิมพิสารก็หาอาสาสมัคร ธนัญชัยเศรษฐีที่ถือว่าหนุ่มกว่าเพื่อนก็อาสาสมัครไป ขนทรัพย์สมบัติ ขนข้าทาสบริวารไป ไปถึงบริเวณที่เป็นที่ตั้งเมืองสาเกต เห็นว่าเนื้อที่กว้างขวางใหญ่โตเพียงพอ ก็เลยส่งทูตก็คือตัวแทน เข้าไปหาพระเจ้าปเสนทิโกศล บอกว่าขออนุญาตสร้างเมืองตรงนี้ เพราะว่าถ้าเข้าไปในสาวัตถีจะทำให้เขาเดือดร้อนกันมาก เนื่องจากว่าเฉพาะบริวารที่ท่านพาไปก็สองแสนคนเข้าไปแล้ว..!

เศรษฐีสมัยก่อนส่งกองเกวียนไปค้าต่างเมือง ไปทีหนึ่ง ๓๐๐ เล่ม ๕๐๐ เล่ม เราลองนึกดูว่า ถ้าคนดูแลวัว ๑ คน คนดูแลสินค้า ๑ คน ถ้ากองเกวียนมีแค่นี้ ๕๐๐ เล่มก็ ๑,๐๐๐ คนแล้ว แล้วไหนจะต้องมีกองกำลังส่วนตัวไปป้องกันสินค้าอีก ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนโจรปล้น โดนอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ฉะนั้น...เศรษฐีสมัยก่อนจึงเหมือนอย่างกับมีกองทัพส่วนตัว

พระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นด้วย ก็เลยยกที่ตรงนั้นให้ บอกให้ตั้งเมืองได้ตามสบายเลย ธนัญชัยเศรษฐีจึงตั้งเมืองขึ้นมาชื่อว่าเมืองสาเกตอยู่ที่ตรงนั้น นางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างบุพพารามที่เมืองสาเกต นิมนต์พระพุทธเจ้าไปอยู่ประจำ พระพุทธเจ้าประจำอยู่สาวัตถีแล้ว ถ้าหากว่าบิณฑบาต ชาวบ้านก็จะสังเกต ออกประตูทิศเหนือหรือทิศตะวันออก

ถ้าออกประตูทิศเหนือก็ไปวัดเชตวัน ถ้าออกทางทิศตะวันออกก็จะเป็นวัดบุพพาราม ชาวบ้านเขาจะไปฟังธรรมกัน เพราะว่าเดินถึงกันง่าย ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2019 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา