“เมื่อหลายเดือนก่อนทางผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ จะขึ้นไป ทหารก็ขึ้นไปจัดการนี่นั่น พอชี้นิ้วสั่งพระ อาตมาก็ด่าเลย “มึงจะให้เกียรติเจ้านายมึงขนาดไหนก็ตาม เจ้านายมึงยังต้องไหว้พระอยู่ มึงอย่าเสือกทะลึ่งมาสั่งพระ..!” พวกนี้ไปที่อื่นไม่เคยโดน คือบางรายเขาจะเอาแต่งานตัวเอง ลืมไปว่าที่นี่คือวัด เพราะฉะนั้น..เขาเคารพเกรงกลัวเจ้านายเขา แต่ลืมไปว่าเจ้านายเขามาเพื่อมาไหว้พระ ดันทะลึ่งมาชี้นิ้วสั่งพระ ต้องช่วยเตือนสติสักหน่อย บังเอิญอาตมาเตือนสติค่อนข้างจะแรงด้วย..!
มีหลายงานที่อาตมาไป ประธานทางฝ่ายพระก็คือหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด ประธานฝ่ายฆราวาสก็คือผู้ว่าฯ ปรากฏว่าบรรดาหน่วยราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่ไปหาผู้ว่าฯ อะไร ๆ ก็ให้ผู้ว่าฯ ก่อน ยังดีที่ผู้ว่าฯ ไม่บ้าจี้ ผู้ว่าฯ ท่านหันมานิมนต์หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดก่อน เพราะว่าเจ้าคณะจังหวัดก็คือผู้ว่าราชการจังหวัดของพระ
ผู้ว่าราชการจังหวัดส่วนใหญ่ถึงเวลามีงานมีการอะไร ก็ต้องเข้าหาเจ้าคณะจังหวัด เพื่อประสานงานขอความร่วมมือจากคณะสงฆ์ แต่พวกสารพัดหน่วยงานกลัวแต่ผู้ว่าฯ แล้วก็ลืมพระไป ต้องบอกว่าลำดับความสำคัญผิดตั้งแต่ต้น ตรงจุดนี้เป็นที่น่าอนาถใจมาก เพราะแสดงให้เห็นชัดว่า เขาไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาเลย ให้ความสำคัญแต่กับผู้บังคับบัญชาตัวเอง แล้วที่พบมาก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:57
|