จากที่เล่ามานี่ อยากจะให้ดูในส่วนของพัฒนาการ  ก็คือการที่ค่อย ๆ ขยับมาเรื่อย คล้าย ๆ กับว่าถ้าเราไม่ทิ้งในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา การปฏิบัติของเราจะค่อย ๆ ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว รู้อยู่อย่างเดียวว่า อยากทำให้มากขึ้น ก็ยืดระยะเวลาไปเรื่อย  
 
แรก ๆ เหมือนกับว่าถ้านั่งนาน ไม่มีอะไรจะทำ รำคาญตัวเอง...ก็กลับ เพราะไม่คุ้นเคยกับสภาพนั้นอย่างหนึ่ง อีกอย่างที่ไม่คุ้นเคยก็คือ  กระแสของคนที่ไปในด้านบุญอย่างเดียว ตอนนั้นของอาตมาเองบาปยังเยอะ ก็จะไปหงุดหงิดรำคาญเขา...ก็กลับ จนกระทั่งจากครึ่งวัน กลายเป็น...เช้ายันเย็น กลายเป็น เช้า...เย็น...กลางคืน   จนกระทั่งกลายเป็นข้ามวันข้ามคืน แล้วก็กลายเป็นหลายวันหลายคืน  
 
จากลักษณะการค่อย ๆ พัฒนาไปพวกนี้ อยากให้พวกเราพิจารณาว่า เราผ่านจุดทั้งหลายเหล่านี้มาบ้างหรือเปล่า ? จากก่อนหน้านี้วัดวาอารามก็แทบไม่อยากจะไป  เดี๋ยวนี้ไล่ให้กลับก็ไม่ค่อยอยากจะกลับ มีการพัฒนาขึ้นมาแต่ละระดับขั้นตอน เคยสังเกตไหมว่ามีจุดเปลี่ยนขาดตรงไหน ? ถ้าเราสังเกตตรงนี้ได้ เราก็จะเห็นความก้าวหน้าของตัวเอง แล้วท้ายสุดถ้าเรารู้จักสังเกตละเอียดไปเรื่อย ๆ เราก็จะเห็นในเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาของเรา ที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาทีละระดับ ในเมื่อมาถึงปัจจุบันถ้าเราสังเกตเป็นแล้ว  ต่อไปเราจะก้าวไปทางไหนก็ง่าย เพราะรู้ทาง  รู้วิธีเสียแล้ว ต่อไปเรื่องการเดินทางก็จะไม่ยากสำหรับเราอีก นี่เล่าให้ฟังเฉย ๆ  
 
 
เทศน์ช่วงสาย  ณ  บ้านอนุสาวรีย์ 
วันเสาร์ที่   ๑๐  ตุลาคม  ๒๕๕๒
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2013 เมื่อ 11:37
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |